Kuroko no Basket นายจืดพลิกสังเวียนบาส เป็นเรื่องราวของ คุโรโกะ เท็ตสึยะ เด็กหนุ่มที่ชอบเล่นบาสเป็นชีวิตจิตใจทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีคุณสมบัติของนักกีฬาเลยสักนิด เขาเข้าเรียนม.ปลายที่โรงเรียนเซรินแล้วสมัครเข้าชมรมบาสเกตบอล ซึ่งทำให้เขาได้พบกับ คางามิ ไทกะ เด็กหนุ่มที่มีทั้งคุณสมบัติและพรสวรรค์ของการเป็นนักกีฬาบาส ไม่นานทั้งสองก็กลายเป็นคู่หูกันโดยมีเป้าหมายคือการเอาชนะรุ่นปาฏิหารย์อดีตเพื่อนร่วมทีมของคุโรโกะ และเป็นที่หนึ่งของประเทศ!!
เชื่อว่าคู่หูคู่นี้คงทำให้หลายคนลุ้นกันสุดๆ ในการแข่งแทบทุกแมช แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่าคนจืดจาง ตรงไปตรงมา และหน้าตาอย่างคุโรโกะเนี่ย เคยทำอะไรที่คาดไม่ถึงให้เราได้อึ้งกันจนพูดไม่ออกบ้าง
สภาพร่างกายไม่ให้ พรสวรรค์ไม่มี แต่ดันอยากเล่นบาส
ถ้าเห็นคุโรโกะเดินปะปนกับคนทั่วไป (ถึงจะมองเห็นยากสักหน่อยก็เถอะ) ใครจะคิดล่ะว่าหมอนี่จะเป็นนักกีฬาแถมยังเป็นตัวหมากสำคัญที่พาทีมไปคว้าชัยชนะมาหลายต่อหลายครั้ง เพราะหากเทียบกับนักกีฬาคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน ก็จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนว่าคุโรโกะไม่เหมาะที่จะมาเป็นนักกีฬาเลยสักนิด ยิ่งเป็นกีฬาบาสเกตบอลก็ยิ่งแล้วใหญ่ ตัวก็เล็ก น้ำหนักก็เบาเกินไป ส่วนสูงก็ไม่ได้ ลงแข่งไปก็มีแต่เสียเปรียบและทำให้ทีมแพ้ไม่เป็นท่า ใครที่เห็นคุโรโกะลงสนามแข่งครั้งแรกต่างก็คิดแบบนั้น
ถึงแม้คุโรโกะจะไม่มีพรสวรรค์ด้านกีฬาเลย แต่เขาก็รักบาสเก็ตบอลไม่แพ้ใคร นั่นทำให้เขาพยายามฝึกซ้อมอย่างหนักจนพบความสามารถเฉพาะตัวด้านการส่งลูกและตัดลูกที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ และกลายเป็นคนที่ทุกคนให้การยอมรับทั้งเพื่อนร่วมทีมและคู่แข่งที่ได้ปะมือกัน
มีดีที่การส่งลูก กลับอยากเป็นคนชู้ตบ้าง
คุโรโกะที่ได้รับคำแนะนำจากอาคาชิให้ลองนำความจืดจางของตัวเองมาปรับใช้กับการเล่นบาส เขาศึกษาเทคนิคการลวงตาและฝึกฝนอย่างหนักจนเป็นปรมาจารย์ด้านการส่งลูก แต่ทักษะการเล่นบาสด้านอื่นๆ ทั้งการเลี้ยงลูกและการชู้ตก็ยังห่วยอยู่ดี ถึงอย่างนั้นคุโรโกะก็ฝึกชู้ตลูกจนได้ท่าไม้ตายใหม่ที่ใครเห็นก็ต้องตะลึง
ขอให้คนที่เพิ่งจะแพ้ตัวเองมาแตะหมัดด้วย
เป็นคนอื่นคงไม่มีใครกล้าทำถึงแม้ว่าจะเคยเป็นเพื่อนสนิทกันก็เถอะ แต่คุโรโกะนี่ก็ช่างกล้าขอให้คนที่แพ้ตัวเองอย่างอาโอมิเนะแตะหมัดด้วยหลังแข่งจบ แค่นั้นยังไม่พอ! คุโรโกะยังขอให้อาโอมิเนะช่วยสอนการชู้ตให้ตัวเองอีก อาโอมิเนะยังพูดเลยว่า “มีใครเขาขอให้คนที่เพิ่งจะแพ้ตัวเองมาหมาดๆ มาสอนให้บ้างล่ะ”
เตือนสติเพื่อนแบบลงไม้ลงมือ
ทั้งที่เป็นคนมีบุคลิกเฉยชา หน้าตายแถมตายด้านทางอารมณ์ แต่พอเห็นเพื่อนหัวร้อนก็ใช้วิธีลงไม้ลงมือในการเรียกสติเพื่อนตลอด ไม่มีการพูดคุยหรือปลอบไปก่อน เรียกได้ว่า ปากยังไม่ว่า มือถึงก่อน โดยเฉพาะกับคู่หูใจร้อนขี้หงุดหงิดอย่างคางามิ แค่ตอนแรกที่เปิดเรื่องมาระหว่างการแข่งมินิเกมกับรุ่นพี่เขาก็แทงเข่าใส่คางามิซะแล้วทั้งที่ยังไม่สนิทกันด้วยซ้ำ แถมตอนนั้นคางามิยังหงุดหงิดแบบสุดๆ จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ทำเอาทุกคนในชมรมอึ้งไปตามๆ กัน ไม่คิดว่าคุโรโกะจะกล้าลงมือกับคนน่ากลัวอย่างคางามิ
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายครั้งที่คุโรโกะใช้ความรุนแรงเตือนสติคางามิ ทั้งต่อยหน้าในแมชที่แข่งกับโรงเรียนชูโตคุ เพราะคุโรโกะทนไม่ได้ที่คางามิคิดว่ามีแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่จะเอาชนะมิโดริมะได้โดยไม่สนใจทีม
แมชที่แข่งกับโรงเรียนโจเซ ก็ทั้งดีดสายรัดข้อมือใส่หน้าคางามิเพราะเขาใจร้อนที่ดังค์พลาดหลายครั้ง ในขณะที่เพื่อนในทีมต่างก็ทำแต้มได้แบบเท่ห์ๆ
แมชที่แข่งกับโรงเรียนคิริซากิ คุโรโกะดึงขาคางามิจนล้มหน้าฟาดพื้นตอนที่คางามิโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนเกือบจะไปชกคู่แข่งระหว่างการแข่งเพราะอีกฝ่ายตั้งใจเล่นแรงทำให้ทีมพวกเขาบาดเจ็บ
ชอบหาเรื่องใส่ตัวทั้งที่รู้ว่าตัวเองสู้ไม่ไหว
คุโรโกะเป็นคนที่นอกจากจะเถรตรงแล้วยังกล้าบ้าบิ่นอีกต่างหาก ถ้าไม่พอใจหรือเห็นใครทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบ ก็ไม่คิดหน้าคิดหลังพุ่งตรงเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามแล้วพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดได้แบบหน้าตาย ไม่ได้มีความกลัวเลยสักนิดว่าตัวเองจะโดนรุมยำหรือเปล่า ทำเอาเพื่อนที่อยู่ด้วยอึ้งกับความบ้าบิ่นของเขาจนตามไปช่วยแทบไม่ทัน
ปลอบสาวที่กำลังร้องไห้
ใครมันจะไปคิดล่ะว่าคนหน้าตายอย่างคุโรโกะจะปลอบผู้หญิงเป็นกับเขาด้วย เขาปลอบโมโมอิที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย จนรุ่นพี่บอกให้คางามิดูไว้เป็นตัวอย่าง
เรียกได้ว่าไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะกับเรื่องคาดไม่ถึงที่คุโรโกะทำ ถ้ามองจากภายนอกคงไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ได้ หลายครั้งนี่ทำเอาใจหลายใจคว่ำกันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่เขาทำไปก็ช่วยใครหลายคนไวได้เช่นกัน