มนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นไม่มีที่สิ้นสุด สมกับเป็นบุตรหลานของอดัมและอีฟที่โดนความอยากรู้อยากเห็นเข้าครอบงำจนฝ่าฝืนกฎของพระผู้เป็นเจ้า แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าการกระทำเหล่านั้นอาจส่งผลร้ายต่อตัวเอง แต่เพื่อเติมเต็มความปรารถนาที่อยู่ในจิตใจแล้ว ไม่ว่าหนทางจะเต็มไปด้วยอุปสรรค ขวากหนามมากมายเพียงใดหรือทำให้ต้องเสียใจภายหลัง ก็จะไม่มีวันหยุดสิ่งที่ตนกระทำอยู่ เอาล่ะค่ะทุกคน ครั้งนี้อนิไทม์ขอเสนอเรื่องราวความอยากรู้ อยากเห็นของเหล่าเด็กน้อยซึ่งนำไปสู่การผจญภัยที่เต็มไปด้วยอันตรายรอบด้านกับ Made in Abyss ค่ะ
ริโค เด็กผู้หญิงคนหนึ่งผู้มีความปรารถนาในการตามหาแม่ของเธอ ผู้ที่เป็นนักสำรวจที่เก่งกาจซึ่งหายตัวไประหว่างออกสำรวจหลุมขนาดใหญ่ที่เรียกว่า อบิส วันหนึ่งที่เธอและเพื่อนกำลังทำการสำรวจพื้นที่ก็ได้เจอกับ เรกซ์ เด็กชายปริศนาที่มีลักษณะคล้ายหุ่นยนต์ที่มีความเชื่อมโยงบางอย่างกับอบิส การผจญภัยของทั้งสองได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากที่มีใครบางคนส่งจดหมายที่มีลายมือของแม่ของเธอพร้อมกับข้อความที่เขียนว่า “จะรออยู่ชั้นล่าง ชั้นที่ลึกที่สุดของอบิส”
การตีความนรกในรูปแบบของหลุมยักษ์ขนาดใหญ่ซึ่งมีความลึกแบ่งเป็น 6 ชั้น ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งการออกแบบหลุมมีคล้ายคลึงกับนรกในเรื่องดีวีนากอมเมเดีย หรือที่คนรู้จักกันดีในชื่อ ไตรภูมิดันเต ที่มีการบรรยายนรกและสวรรค์ของศาสนาคริสต์ให้กับผู้คนเข้าใจได้อย่างง่าย เหมือนกับไตรภูมิพระร่วงของศาสนาพุทธนั่นเอง การผจญภัยของริโคกับเรกซ์ก็คล้ายกับดันเต้ที่กล้าเดินลงไปทำความรู้จักกับนรกที่แม้ว่าจะไม่มีโอกาสกลับมาก็ตาม ขนาดนักสำรวจที่เก่งกาจบางคนยังไม่มีใครที่จะกล้าลงไปท้าทายกับอำนาจของมัน
แม้ว่าระดับชั้นของอบิสจะไม่เท่ากับไตรภูมิดันเต้ที่มีอยู่ถึง 9 ชั้น แต่ความน่ากลัวมันก็ไม่แพ้ใครเลยทีเดียว เพราะนอกจากสัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างในแล้ว เจ้าหลุมนี้เป็นหลุมที่เมื่อลงไปแล้วไม่สามารถขึ้นมาได้ เพราะคำสาปที่มีอยู่ในแต่ละชั้นจะฆ่าใครก็ตามที่ลงไปท้าทายอำนาจของมัน ยิ่งลึกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งก้าวไปหาความตายมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการนำเสนออิทธิฤทธิ์ของคำสาปในแต่ละชั้นมีความน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากอ้างอิงถึงและดัดแปลงหลักการของการดำน้ำหรือสภาวะการขึ้นสูงของนักปีนเขาจนกลายเป็นคำสาปแห่งอบิส ทำให้รู้สึกมีหลักการขึ้นมากกว่าที่จะกล่าวว่าทำไมจู่ๆ คำสาปแต่ละชั้นถึงมีความรุนแรงไม่เท่ากัน
ถึงเรื่องราวจะเข้มข้นและค่อนข้างเคร่งเครียดผิดจากลายเส้นที่ดูเป็นนิทานสำหรับเด็ก แต่เพราะความน่ารัก สดใสและมองโลกในแง่ดีของตัวเอกทั้งสองทำให้การผจญภัยของทั้งคู่เต็มไปด้วยความน่าสนใจ เหมือนกับพวกเขากำลังจะก้าวเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่ที่ถึงแม้ว่าจะโหดร้ายและเจ็บปวดแค่ไหน แต่ก็ต้องก้าวเดินต่อไปทั้งรอยยิ้มเพื่อจะมีชีวิตอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายพร้อมจะทำร้ายทุกคนอยู่ตลอดเวลา
คุณภาพของภาพเรียกได้ว่าสวยงาม อลังการมาก ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของตัวละคร เส้นผมหรือดอกไม้ที่อยู่ในเรื่องดูพลิ้วไหวราวกับของจริง ฉากต่างๆ โดยเฉพาะที่เป็นเมืองมีการออกแบบและลงรายละเอียดที่ซับซ้อนมาก ยิ่งได้ยินมาว่าใช้มือวาดล้วนๆ ก็ยิ่งยอมใจในความขยันของทีมงานที่ลงแรงในการวาดฉากที่ออกมาแม้เพียงไม่กี่วิ ให้สวยงามจนเป็นที่ติดตาของผู้ชมหลายคน รวมไปถึงแฟนอาร์ตของนักเขียนท่านอื่นที่เอามาเป็นภาพปิดท้ายซึ่งเป็นความน่ารักของเรื่องนี้ที่ไม่มีใครเหมือน

เพลงเปิด เพลงปิดของเรื่องนี้เต็มไปด้วยความสดใสและความอยากรู้อยากเห็นของเหล่าเด็กๆ ที่กำลังจะได้ลงไปข้างล่างในชั้นที่ลึกที่สุดของหลุมที่ใครหลายคนต่างหวาดกลัว ตัดมาที่เสียงประกอบที่สามารถบรรเลงได้สอดคล้องกับบรรยากาศของเรื่อง ทำให้สามารถดึงอารมณ์ให้หลายคนรู้สึกตื่นเต้นและสนุกไปกับเนื้อเรื่อง
การผจญภัยที่มีอยู่ในภาคนี้ ถือว่าเป็นปฐมบทแห่งเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น ยังมีปริศนาอีกมากมายในอยู่อบิสที่ยังรอคอยให้เหล่าเด็กๆ ได้ค้นหาและเปิดเผยให้แก่ทุกคนได้รับรู้ มาร่วมเดินทางและไขปริศนาไปพร้อมกับเราได้ที่ Made in Abyss แล้วเพื่อนๆ จะได้รู้ว่ามนุษย์เรานี้ มีความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่มีวันสิ้นสุดจริงๆ
https://www.youtube.com/watch?v=MuboGrmPDIg
-
อ้างอิง