暗殺教室 (Ansatsu Kyoshitsu; Assassination Classroom) – ห้องเรียนลอบสังหาร
จากมังงะยอดนิยมบนนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์อย่างโชเน็นจัมป์ สู่ทีวีอนิเมะที่จะกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวมาให้เราได้ดูกัน
ห้องเรียนลอบฆ่า คือชื่อเรียกของห้อง E ห้องบ๊วยสุดในโรงเรียนคุนุกิกาโอกะ เหล่าเด็กที่ผลการเรียนตกต่ำจนถูกถีบส่งมายังห้องเรียนที่แย่ที่สุด ทั้งโดนห้ามกิจกรรมสารพัด โดนกดขี่จากนักเรียนห้องปกติทั่วไป กลายเป็นพลเมืองชั้นสามภายในโรงเรียนทันที แล้วสัตว์ประหลาดซึ่งเป็นสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่คิดจะทำลายล้างโลกก็กลายมาเป็นอาจารย์ประจำชั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เหล่านักเรียนห้องบ๊วยจึงได้รับมอบหมายภารกิจลับสุดยอดคือการสังหารอาจารย์ประจำชั้นตัวเองก่อนที่เขาจะทำลายล้างโลก
สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้อยู่ที่เหล่าตัวละครทั้งหลาย ทั้งนักเรียนซึ่งแต่ละคนก็มีสาเหตุที่ถูกถีบส่งมายังห้องบ๊วย และต้องกลายมาเป็นนักฆ่า (เพื่อเงินรางวัลหมื่นล้านเยน) ในขณะที่เป้าหมายซึ่งก็คืออาจารย์ สุดยอดสิ่งมีชีวิตที่คิดจะทำลายล้างโลก ในฐานะอาจารย์เองก็นับว่าสมบูรณ์แบบ ด้วยความสามารถเหนือมนุษย์ทำให้การเรียนการสอนจึงทำได้ยอดเยี่ยมอย่างที่สุด แถมเจ้าตัวเองก็กระตือรือล้นที่จะพัฒนาฝีมือในการลอบฆ่าของลูกศิษย์ซะเหลือเกิน ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่อาจารย์ในการแก้ปัญหาหรือสิ่งที่เหล่าเด็กห้องบ๊วยต้องเจอมา ทั้งที่บางคนก็มีผลการเรียนที่ดี บางคนก็พยายามอย่างหนัก แต่กลับกลายตกมาอยู่ห้อง E-End ซะได้ หรือแม้กระทั่งนักเรียนที่ไม่เอาไหนก็ย่อมมีปัญหาของตัวเอง ปัญหาเหล่านี้รวมไปถึงวิธีการคลี่คลายปัญหาของอาจารย์โคโระผู้เป็นอาจารย์ประจำชั้นถูกถ่ายทอดออกมาเป็นการ์ตูนด้วยลายเส้นที่เรียบง่าย กับเนื้อเรื่องที่เป็นสคูลไลฟ์คอเมดี้ที่แฝงไปด้วยเนื้อเรื่องในมุมมองต่าง ๆ มากมายที่ไม่เคยเห็น อาจารย์กับลูกศิษย์ เป้าหมายกับนักฆ่า บทบาทที่ไม่ปกติเหล่านี้ถูกแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวันอันแสนปกติอย่างน่าเหลือเชื่อ
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของห้องเรียนลอบสังหารคือ “การผลักดันทุกอย่างไปให้ถึงขีดสุด” อย่างที่เรารู้กัน การปลุกตัวเอง หรือถูกปลุกโดยคนอื่น ให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองของเด็กๆ ห้องบ๊วยในห้องเรียนลอบสังหารนั้นเป็นพล็อตการ์ตูนที่ไม่ได้แปลกใหม่ เราเคยเห็นมาแล้วในการ์ตูนมากมาย เพียงแต่ว่าการ์ตูนเรื่องนี้สามารถดันไอ้การลุกขึ้นก่อกบฎนั้นไปได้จนถึงขีดสุด เริ่มตั้งแต่การตั้งให้ห้อง E ไม่ใช่แค่ห้องบ๊วยธรรมดา แต่เป็นห้องบ๊วยระดับสังคมรังเกียจ ไม่สามารถอยู่ร่วมโรงเรียนกันได้ ต้องย้ายไปเรียนห้องเดียวบนภูเขา
ขีดสุดประการต่อมาคือตัวละครของอาจารย์โคโระ ซึ่งได้แหกทุกกฎการออกแบบตัวละครบนโลกไปแล้ว ตั้งแต่การมีหนวดงอกใหม่ได้ไม่สิ้นสุด มีความเร็วมัค 20 ลอกคราบได้ ทนทานต่ออาวุธใดๆ ทั้งปวง สติปัญญาเป็นเลิศ รอบรู้ทุกเรื่อง ฯลฯ แถมยังไม่สามารถเก็บอารมณ์ได้ รู้สึกอย่างไรก็จะแสดงออกให้เห็นชัดเจนผ่านสีของร่างกาย
การถูกแบ่งแยกจนถึงขีดสุด บวกกับภารกิจที่ได้รับจากคน (?) สุดขีด อย่างอาจารย์โคโระ ซึ่งก็คือการลอบสังหาร ศาสตร์ที่ไม่ได้ใช้เพียงพละกำลัง แต่ยังต้องใช้มันสมอง การคิดวิเคราะห์ ความรู้รอบตัว การแสดง คำพูด ฯลฯ “หึหึหึ เรียนไม่เก่งเหรอ เล่นกีฬาไม่เก่งเหรอ ไม่เป็นไร ลอบสังหารให้เก่งก็พอ” ก็คือปรัชญาของการ์ตูนเรื่องนี้ ทำให้การก่อกบฎของห้องบ๊วยครั้งนี้สุดขีดกว่าครั้งไหนๆ ในประวัติศาสตร์การ์ตูน
ในเวอร์ชันอนิเมะ ผมรู้สึกว่าจังหวะการตบมุกยังไม่ลื่นไหลเท่าไรนัก เหมือนกับเว้นให้เวลามันผ่านนานไปหน่อย ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดยากในการทำอนิเมะแนวคอเมดี้ ไม่เหมือนกับตอนเป็นมังงะตรงที่ว่าจังหวะตบมุกจะเล่นได้ง่ายกว่า แต่ข้อดีของอนิเมะก็มีเหมือนกันตรงที่เราได้เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวเต็ม ๆ เห็นสีหน้าของอาจารย์โคโระได้มากกว่าจากเดิมที่มังงะเป็นขาวดำทำให้แทบไม่เห็นอะไรเลย พอมาเป็นอนิเมะก็สังเกตสีที่เปลี่ยนได้ชัดขึ้น จะสีเหลืองปกติ สีชมพูประมาท หรืออย่างในตอนพิเศษที่ฉายไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ได้เห็นว่าไอ้หน้าลายขวางสีเขียวมันไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ อย่างเดียว แต่สามารถเลื่อนไป ๆ มา ๆ ได้ยังกับหลอดหน้าร้านตัดผม หรืออย่างการเคลื่อนไหวที่เร็ว 20 มัคของอาจารย์ พอมาดูเป็นอนิเมะก็รู้สึกว่ามันสุดยอดยิ่งกว่าการเห็นแค่เส้นสปีดในมังงะซะอีก ซึ่งส่วนนี้นับว่ากินขาดหนังสือการ์ตูนที่เป็นเพียงภาพนิ่งสีขาวดำเลยล่ะครับ
ผมรู้สึกแปลกๆ กับเพลงธีมเปิด (Opening Theme) คือพูดไม่ถูกว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่แปลก ๆ แต่สำหรับเพลงธีมจบ (Ending Theme) ผมชอบมากครับ รู้สึกว่ามันเข้ากับอนิเมะอย่างน่าประหลาด
แต่สิ่งหนึ่งที่ขัดใจผมอย่างมากคือ ทำไมเสียงนางิสะมันถึงได้สาวขนาดนั้นกัน เข้าใจว่าอิมเมจของตัวละครมันดูเป็นผู้ชายอ้อนแอ้นบอบบาง เลยใช้นักพากย์เป็นผู้หญิง แต่เสียงนี่มันจะสาวเกินไปแล้ว
Original : Manga
ผู้แต่ง : ยูเซย์ มัตซึย
Genre : Action, School, Comedy
Studio : Lercheรายชื่อนักพากย์
อาจารย์โคโระ : ฟุคุยามะ จุน
ชิโอตะ นางิสะ : ฟุชิกามิ ไม
คายาโนะ คาเอเดะ : ซูซาคิ อายะ
คาราสึมะ ทาคาโอมิ : สุกิตะ โทโมคาสึ
เอรีน่า เจราวิช : อิโต้ ชิสึกะ
อาคาบาเนะ คารุมะ : โอคาโมโตะ โนบุฮิโกะ
เทระซากะ เรียวมะ : คิมุระ สุบารุ