ต้องบอกว่าหนุ่มๆ ตระกูลนี้เสน่ห์แรงกันทุกคน ตั้งแต่พ่อของอินุยาฉะที่มีภรรยาสองคน หรือพระเอกของเรื่องอย่างอินุยาฉะเองก็มีปัญหาคิดไม่ตกเลือกไม่ได้ระหว่างคาโงเมะกับคิเคียว ซึ่งก็แน่นอนว่าคนหล่อ ขรึม เป็นที่รักของสาวๆ นักอ่านอย่าง เส็ตโชมารู ก็หนีไม่พ้นชะตากรรมนี้ เพราะนอกจากหนูรินที่ดูท่าจะเข้าเส้นชัยแน่นอนแล้ว ช่วงชีวิตนึงของเส็ตโชมารูก็เคยมีหญิงสาวผู้ใช้ลมลูกน้องของนาราคุอย่าง คางุระ เข้ามาเกี่ยวพัน แต่ด้วยโชคชะตาอันแสนเศร้า ทำให้ความรักของคางุระต้องจบลงเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรความรักของเธอก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจนักอ่านหลายคน และวันนี้เราก็จะมาย้อนดูเส้นทางความรักของคางุระที่มีต่อเส็ตโชมารูกันค่ะ!
สายลมที่ไร้อิสระ
ชีวิตของคางุระอาภัพไม่แพ้ตัวละครอื่นในเรื่องเลย เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแต่เป็นร่างแบ่งภาคที่ถูกนาราคุสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งาน คอยบงการให้ไปทำเรื่องต่างๆ โดยที่เธอไม่เต็มใจ ดังนั้นเธอจึงเกลียดนาราคุเป็นอย่างมากและอยากจะทรยศเขาเพื่อที่เธอจะได้เป็นอิสระจากพันธนาการและลอยล่องไปตามใจเหมือนสายลมอันเป็นวิชาของเธอ
แต่คางุระก็ไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดได้ เพราะหัวใจของเธอไม่ได้อยู่ในอกแต่มันถูกนาราคุครอบครองอยู่ ซึ่งนาราคุก็พร้อมบีบมันให้แหลกละเอียดคามือได้ทุกเมื่อตราบใดที่เธอคิดจะทรยศเขา ดังนั้น สิ่งที่คางุระพอทำได้คือการหาใครสักคนที่มีฝีมือร้ายกาจมาต่อกรกับนาราคุแทนเธอ และเขาคนนั้นก็คือ เส็ตโชมารู นั่นเอง
คนที่จะพาไปสู่อิสรภาพ
“ถ้าเป็นผู้ชายคนนั้นล่ะก็ มันมีดาบที่สามารถตัดโซ่ที่ล่ามข้าไว้กับนาราคุได้นี่นะ”
อย่างที่รู้กันว่าแม้คางุระจะอยากฆ่านาราคุและเป็นอิสระมากแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถลงมือด้วยตัวเองได้เพราะหัวใจของเธออยู่ในเงื้อมมือมัน ดังนั้นคางุระจึงต้องมองหาใครสักคนที่เก่งกาจพอจะช่วยตัดบ่วงโซ่นี้ให้เธอได้ โดยคนที่เธอเล็งไว้ก็คือ เส็ตโชมารู นั่นเอง แต่ก่อนที่เธอจะไว้ใจความสามารถของเขา คางุระก็ได้ลองทดสอบว่าเส็ตโชมารูเก่งจริงหรือไม่ด้วยการไปปรากฏตัวต่อหน้าเส็ตโชมารูและบอกข้อมูลของดาบมารสมิงเพื่อให้เส็ตโชมารูได้ดาบนั้นไปต่อสู้กับอินุยาฉะ ส่วนตัวเธอก็เฝ้ามองการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เส็ตโชมารูเป็นปีศาจที่เก่งกาจมาก ทำให้คางุระเริ่มมีความหวังขึ้นมาว่าเขานี่แหละ คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดปล่อยเธอจากนาราคุ
หลังจากนั้น คางุระก็มักจะนำข้อมูลในการกำจัดนาราคุมาบอกเส็ตโชมารูเสมอ รวมถึงนำเศษลูกแก้วสี่วิญญาณมาให้เพื่อที่ว่าเส็ตโชมารูจะได้แกร่งขึ้นจนสามารถร่วมมือกับเธอฆ่านาราคุได้ ทว่าเขากลับปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดี อีกทั้งยังสั่งสอนกลับมาว่าถ้าไม่ได้เตรียมใจจะทำงานคนเดียวก็อย่าคิดทรยศใครดีกว่า แล้วให้เธอเก็บเศษลูกแก้วสี่วิญญาณไปใช้เอง ทำเอาคางุระโกรธจัดและบินหนีไป ทว่าแม้จะเจ็บใจกับความใจจืดใจดำของเส็ตโชมารู คางุระก็ยังอดคิดถึงใบหน้ากับน้ำเสียงของเขาขึ้นมาไม่ได้ ภายหลังก็ยังคงมาปรากฏตัวต่อหน้าเส็ตโชมารูบ่อยๆ เพื่อบอกเบาะแสเกี่ยวกับนาราคุเหมือนเดิม
ถึงเธอจะแสดงออกเหมือนหลอกใช้อีกฝ่าย แต่เวลาที่เธอเหนื่อยจากการถูกบีบบังคับคางุระก็มักจะนึกถึงเส็ตโชมารูเสมอ บางครั้งก็ออกตามหา ราวกับอยากมาขอความช่วยเหลือจากเส็ตโชมารูแต่ไม่ยอมพูดออกไปตรงๆ
คนที่อยากพบก่อนตาย
หลังจากโดน โกะเรียวมารุ ทำร้ายจนหน้าอกทะลุเป็นรู คางุระก็หอบร่างกายอันบอบช้ำของตนบินมาถึงจุดที่เส็ตโชมารูอยู่ ก่อนร่างของเธอจะร่วงลงไปในแม่น้ำและได้รับการช่วยเหลือจากเส็ตโชมารูและพวกจาเค็น
พอฟื้นขึ้นมาคางุระก็เอ่ยจิกกัดตามประสาว่าไม่นึกว่าคนอย่างเขาจะรู้จักเห็นใจคนอื่นเป็น ซึ่งแน่นอนว่าเส็ตโชมารูไม่มีทางใส่ใจกับคำพูดของเธออยู่แล้ว และทำท่าจะเดินหนี แต่ทันใดนั้นคางุระก็รั้งเขาไว้ด้วยเรื่องหัวใจของนาราคุ เธอให้ผลึกไอปีศาจที่ใช้ในการเข้าถึงหัวใจของนาราคุไว้กับจาเค็น แถมยังพูดด้วยความเชื่อสุดหัวใจว่านอกจากเส็ตโชมารูแล้วคงไม่มีใครมีพลังเทียบเคียงกับนาราคุได้อีก บ่งบอกว่าเธอหวังพึ่งเขามากเลยทีเดียว และก่อนจากกันรินก็ได้เอ่ยถามเธอว่า “ไม่ได้มาขอให้ท่านเส็ตโชมารูช่วยงั้นหรอคะ?” คางุระนิ่งไปสักพักแล้วตอบปฏิเสธ
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะ ก็แค่…”
เธอหยุดไว้แค่นี้ก่อนจะใช้สายลมพัดตัวเธอขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วมองลงมาที่เส็ตโชมารูอย่างเศร้าสร้อย
‘ก็แค่ก่อนจะตายน่ะ…ขอพบอีกสักครั้ง…แค่คิดแบบนี้เท่านั้นเอง’
คนเดียวที่มาหาในวาระสุดท้ายของชีวิต
ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของชีวิต คางุระเลือกที่จะหักหลังโมเรียวมารุแล้วปล่อยให้โคฮาคุ น้องชายของซังโกะมีชีวิตด้วยเศษลูกแก้วสี่วิญญาณต่อไป และร่วมมือกับพวกอินุยาฉะกำจัดคนทรยศที่หมายจะแย่งชิงตำแหน่งนาราคุได้สำเร็จ ซึ่งทั้งหมดคือแผนของนาราคุที่ตั้งใจจะกำจัดเสี้ยนหนามโดยไม่ต้องเปลืองแรงตัวเอง
ทันทีที่คางุระหมดประโยชน์ นาราคุก็จัดการฆ่าคนทรยศอย่างเธอด้วยการหลอกว่าจะคืนอิสรภาพให้ แต่กลับใส่หัวใจเข้ามาในตัวเธอครู่เดียวเท่านั้น ก่อนจะพรากอิสระเพียงชั่วครู่ของเธอไปด้วยการกระซวกกลางอกของคางุระอย่างโหดเหี้ยมแล้วปล่อยให้เธอระหกระเหรอความตายต่อไป
ทางด้านเส็ตโชมารูที่กำลังต่อสู้กับโมเรียวมารุอยู่พอได้กลิ่นเลือดของคางุระเขาก็ปล่อยให้มันหนีแล้วรีบออกตามหาเธอทันที ขณะที่คางุระกำลังนั่งเศร้าสร้อยตัดพ้อว่าตนเองคงต้องตายเพียงลำพังอยู่นั้น เส็ตโชมารูก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า
“ข้าตามกลิ่นเลือดและบรรยากาศพิษมา”
“งั้นเหรอ คิดว่านาราคุสินะ…ผิดหวังล่ะสิที่ไม่ใช่นาราคุ”
“ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า”
ได้พบคนที่หลงรักเป็นครั้งสุดท้าย ได้รู้ว่าเขาตั้งใจมาหาเธอ แค่นั้นก็เพียงพอให้คางุระจากไปพร้อมกับรอยยิ้มได้แล้ว
‘ข้าได้พบกับเจ้า…เป็นครั้งสุดท้าย’
ความโกรธและความโศกเศร้าเพื่อใครบางคน
ระหว่างสู้กับโมเรียวมารุก่อนคางุระจะจากไป โมเรียวมารุได้พูดดูถูกคางุระว่าเป็นผู้หญิงโง่ที่ยอมหักหลังนาราคุเพื่อแลกกับของไร้สาระอย่างอิสรภาพจนสุดท้ายก็ตะเกียกตะกายตายอย่างน่าสมเพช แถมยังเป็นการตายที่สูญเปล่าอีกต่างหาก ทำเอาเส็ตโชมารูถึงกับโมโหและสั่งให้อีกฝ่ายหุบปาก ก่อนจะใช้ดาบมารสมิงฟันเข้าที่เปลือกนอกของโมเรียวมารุจนมันเสียท่าต้องหนีกลับไป ส่วนดาบมารสมิงก็ถึงกับหักเป็นสองท่อนเลยทีเดียว แล้วพอคางุระตาย เขาก็นั่งคิดถึงภาพตอนจากกันราวกับกำลังเศร้าอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อช่างตีดาบโทโตไซตามมาพบ เขาก็บอกว่าดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นของเส็ตโชมารูกำลังคร่ำครวญอยู่ เพราะดาบยอมรับการเปลี่ยนแปลงในจิตใจของเส็ตโชมารูที่ตอนนี้สิ่งที่เคยขาดหายไปในจิตใจมันเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งสิ่งนั้นก็คือความโกรธและความโศกเศร้าเพื่อใครบางคนที่ไม่ใช่ตนเอง ส่วนสาเหตุนั้นเส็ตโชมารูก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นเพราะความตายของคางุระที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมา
แม้ความรักของคางุระจะต้องจบลงอย่างน่าเศร้า แต่อย่างน้อยช่วงชีวิตหนึ่งเธอก็ได้สอนให้เส็ตโชมารูรู้จักกับความโกรธและโศกเศร้าเพื่อผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเข้าใจมาก่อน ต่อให้เส็ตโชมารูจะไม่ได้รักเธอแบบหนุ่มสาวแต่เชื่อว่าเขาคงจดจำเรื่องราวของเธอไปตลอดกาลแน่นอน