ในประเทศญี่ปุ่นชุดประจำชาติอย่างชุดกิโมโน เป็นชุดที่สร้างเอกลักษณ์และความทรงจำให้กับผู้คนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี แต่ทว่าจริงๆ แล้วมีอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นที่กล่าวขานไม่แพ้กันคือรองเท้าที่ต้องใส่คู่กันอย่าง เกี๊ยะ หรือรองเท้าแตะญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งก็มีอยู่หลายประเภทมากกว่าที่เราคิดกัน แต่จะมีอะไรบ้างนั้นตามอ่านกันได้เลยค่ะ
เกตะหรือเกี๊ยะ
รองเท้าสำหรับสวมคู่กับเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่นสามารถแบ่งออกเป็นรองเท้าที่ทำด้วยไม้เรียกว่า เกตะหรือเกี๊ยะ และรองเท้าที่ทำด้วยวัสดุอื่นๆ ที่เรียกว่า โซริ ซึ่งเมื่อสวมกิโมโนจะต้องสวมรองเท้าโซริ แต่ถ้าสวมยูกาตะจะต้องสวมรองเท้าเกี๊ยะด้วยเท้าเปล่าเท่านั้น
ประวัติรองเท้าเกี๊ยะ
เกี๊ยะถูกสร้างขึ้นและใช้เป็นรองเท้าสำหรับการทำงานของคนญี่ปุ่นในสมัยยาโยอิ พวกเขาเริ่มใช้ ทาเกตะ เพราะชาวบ้านไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบายในการทำนาข้าว จึงต้องหารองเท้าที่สามารถเดินได้ง่ายในการทำงานในนาข้าว
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบอื่นๆ อีกอย่างเช่น เนซุระเกตะ ใช้สำหรับการเดินบนชายหาดหรือในน้ำตื้นซึ่งมีเข็มติดอยู่กับพื้นเพื่อการจับปลา ต่อมาในช่วงยุคเฮอันก็ได้ถือกำเนิดเกี๊ยะอีกหนึ่งประเภทขึ้นมาคือ ทาบาบะ ที่มักจะถูกสวมใส่โดยนักบวชที่ต้องเดินขึ้นหรือลงภูเขาบ่อยๆ
อย่างไรก็ตามช่วงปลายของยุคนี้คนทั่วไปกลับหันมาสวมใส่ โซริ แทน เพราะเกี๊ยะกลายเป็นสิ่งที่หายากและมีราคาแพงสำหรับคนทั่วไปจวบจนมาถึงยุคเอโดะ ผู้คนเริ่มสวมใส่เกี๊ยะอีกครั้งจากความสนใจในแฟชั่น ซึ่งในยุคนั้นเกี๊ยะไม่เพียงแต่เป็นรองเท้าทำงานแต่ยังเป็นสินค้าแฟชั่นอีกด้วย ทำให้เกี๊ยะมีพัฒนาการมากขึ้นตามลำดับส่งผลให้มีร้านขายเกี๊ยะมากขึ้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เกี๊ยะจึงมีมากกว่า 200 ประเภทในเวลานั้นและเกี๊ยะก็มีชื่อเสียงมากขึ้นในหมู่คนทั่วไปนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ประเภทของรองเท้าเกี๊ยะ
เกี๊ยะเคยมีมากมายหลายประเภทในอดีต ซึ่งปัจจุบันมีแค่บางประเภทเท่านั้นที่ยังคงเป็นที่นิยมและผู้คนยังสวมใส่อยู่ในโอกาสต่างๆ ดังนี้
รองเท้าโซริ
แม้จะมีรูปทรงเหมือนกับเกี๊ยะแต่โซริจะไม่มีส้นอยู่ด้านล่างและจะสวมใส่ได้ง่ายกว่าเกี๊ยะมาก รองเท้าโซริสามารถแบ่งได้ออกมาอีกสองประเภทคือ แบบธรรมดาและแบบทางการ ซึ่งโซริแบบธรรมดาจะไม่มีส้นแต่แบบทางการจะมีส้นรองเท้าสูงขึ้นมาพอสมควร
รองเท้าเซตตะ
เป็นรูปแบบของรองเท้าโซริที่บางกว่ารองเท้าโซริธรรมดาโดยสานจากเปลือกไม้ไผ่และติดแผ่นหนังที่ใต้พื้นรองเท้า ซึ่งผู้ประกอบพิธีชงชานามว่า เซนโนะริกิว เป็นผู้คิดประดิษฐ์ขึ้น เพื่อใช้สวมเดินในสวนรอบห้องชงชาที่มีหิมะปกคลุมได้อย่างสะดวกมากขึ้นนั่นเอง
รองเท้าเกี๊ยะโคมะ
เป็นชื่อเรียกรองเท้าเกี๊ยะที่มีส้นเกี๊ยะสองอัน มีทั้งแบบที่ทำด้วยไม้ไม่ทาสีหรือเคลือบเงาและแบบไม้เคลือบเงา โดยวัสดุหลักคือไม้คิริซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่บางทีก็ทำด้วยไม้สนทดแทนได้เหมือนกัน
รองเท้าเกี๊ยะโนเมริ
รองเท้าเกี๊ยะโคมะแบบที่ส้นเกี๊ยะด้านหน้าเป็นรูปสามเหลี่ยมเมื่อมองจากด้านข้าง ซึ่งชื่อเรียกถูกตั้งมาจากลักษณะที่สวมแล้วจะคะมำไปด้านหน้า
รองเท้าเกี๊ยะอุคน
รองเท้าเกี๊ยะลักษณะคล้ายรองเท้าโซริที่คว้านพื้นรองเท้าตรงกลางออกและใต้พื้นรองเท้าติดแผ่นยางกันลื่นจึงเดินง่ายมากกว่าประเภทอื่นๆ
รองเท้าเกี๊ยะปกกุริ
พื้นรองเท้าด้านหน้าตัดเป็นมุมเฉียง เซาะใต้พื้นรองเท้าเป็นช่องกลวงเวลาเดินจึงมีเสียงและจากเสียงนี้เองทางแถบคันโตจึงเรียกรองเท้านี้ว่า ปกกุริ และแถบคันไซเรัียกว่า คปโปริ
รองเท้าเกี๊ยะอามะ
รองเท้าเกี๊ยะสำหรับสวมในวันฝนตกใต้พื้นรองเท้าติดแผ่นยางกันลื่นและหัวรองเท้ามีแผ่นกันเปียกเรียกว่า ทสึมากาวะ
ปัจจุบันของรองเท้าเกี๊ยะ
เกี๊ยะเป็นรองเท้าแตะแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ในสมัยก่อนคนใช้เป็นรองเท้าทำงาน แต่ในปัจจุบันคนญี่ปุ่นปรับใช้รองเท้าเกี๊ยะมาเป็นสินค้าแฟชั่นมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใส่กับกิโมโน อีกทั้งยังมีร้านค้าให้เช่ากิโมโนเพื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจที่จะสวมใส่ ซึ่งสามารถลองใส่ชุดกิโมโนและเกี๊ยะไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 เยน ถึง 6,000 เยน ทั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเดินเวลาใส่เกี๊ยะเป็นครั้งแรก แต่มันเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับการมาท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น
รองเท้าเกี๊ยะในโลกอนิเมะ
นอกจากประเทศญี่ปุ่นจะอนุรักษ์รองเท้าเกี๊ยะโดยนำมาปรับใช้เข้ากับแฟชั่นในยุคนี้แล้ว สิ่งที่ที่สามารถสอดแทรกการสวมใส่รองเท้าแบบดั้งเดิมนี้ได้ดีคือในโลกแห่งอนิเมะ ที่จะมีบางตัวละครยังคงสวมใส่ชุดกิโมโนและรองเท้าเกี๊ยะอยู่ทำให้เป็นที่จดจำได้ง่ายและอีกทั้งยังออกมาดูดีอีกด้วย
ซากุยะ – Sword Art Online
ซากุยะคือ ผู้นำของเผ่า Sylph คนปัจจุบันที่ความสามารถในการใช้ดาบและความเป็นผู้นำที่โดดเด่น โดยเธอเป็นตัวละครที่สวมใส่รองเท้าเกี๊ยะแบบ ปกกุริ เข้าคู่กับชุดกิโมโนสีเขียว
ริริจิโยะ – Inu x Boku SS คุณหนูปากร้าย x จิ้งจอกปีศาจ
ริริจิโยะ ลูกสาวตระกูลชิราคิอิน ปีศาจตระกูลยักษ์ ซึ่งเวลาเธอแปลงกายเป็นยักษ์นั้นชุดของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นชุดฮากามะแบบสั้นและสวมใส่รองเท้าเกี๊ยะแบบอุคนนั่นเอง
จิไรยะ – นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ
ลูกศิษย์จอมโวของ ซารุโทบิ ฮิโรเซน เป็นคนโผงผางและทะลึ่งตึงตังแต่ก็เป็นนินจาในตำนานที่เก่งที่สุด จิไรยะมักใช้เวลาไปกับการท่องเที่ยวและแต่งหนังสือนิยายรักวาบหวามเรื่อง อะจึ๊ย สวรรค์รำไร ที่ทำเอาหนุ่นๆนินจาติดกันงอมแงม ซึ่งชุดที่เขาสวมใส่นั้นเป็นชุดนินจาที่ใส่คู่กับเกี๊ยะสุดฮิตอย่างเกี๊ยะโคมะนั่นเองค่ะ
เคนชิน – ซามูไรพเนจร
ชินตะ ตอนอายุ 10 ขวบเขาถูกขายเป็นทาส แต่เขาได้รับการปกป้องจากพี่สาวทำให้รอดตายมาได้ ก่อนที่ ฮิโกะ เซจูโร่ ได้รับมาเป็นศิษย์พร้อมกับเปลี่ยนชื่อให้เขาเป็น เคนชิน ที่เป็นเอกลักษณ์ในชุดฮากามะสีแดงคู่กับรองเท้าเซตตะค่ะ
ต้องยอมรับว่าถึงแม้ว่าวัฒนธรรมในประเทศญี่ปุ่นจะเยอะมากเพียงใด แต่คนญี่ปุ่นก็ไม่เคยลืมเลือนและเก็บวัฒนธรรมนั้นมาเผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสอยู่เสมอ รองเท้าเกี๊ยะเองก็เช่นกันไม่ใช่แค่รู้ว่ามีอยู่แต่คนญี่ปุ่นนำมาประยุกต์กับสิ่งต่างๆ ที่สามารถสร้างรูปแบบที่น่าสนใจหรือสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติได้อีกด้วย
ที่มา
- หนังสือเรียกแบบญี่ปุ่น
- en.wikipedia
- thekyotoproject