มนุษย์เราเวลาอยู่ในสถานการณ์ที่กดดันมักจะเอาตัวรอดโดยไม่สนใครอยู่เสมอ ยิ่งมีเวลามากดดันบวกกับในสถานที่คับแคบแล้วล่ะก็ต่อให้รักกันมากแค่ไหนหรือไม่รู้จักกันเลยก็ตาม ย่อมมีการกระทบกระทั่งหรืออาจถึงขั้นฆ่ากันเอาได้ อย่างในมังงะเรื่อง ดงเดรัจฉาน เรื่องนี้ที่เผยด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ทุกคนออกมาเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เอาชีวิตรอด วันนี้อนิไทม์เลยจะมารีวิวให้ทุกคนได้เห็นความดิบเถื่อนในตัวมนุษย์กันค่ะ ว่าบางทีคนหน้าใสใจซื่อก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้
บทความนี้อาจมีเนื้อหาที่เปิดเผยสาระสำคัญของเรื่องซึ่งอาจมีผลต่ออรรสรถของผู้ที่ไม่เคยอ่าน และการ์ตูนเล่มนี้จัดอยู่ในเรต 18+
ดงเดรัจฉาน (สำนักพิมพ์รักพิมพ์) แค่ชื่อเรื่องก็บอกแล้วว่าดิบเถื่อนแน่นอน เรื่องราวของ สึกิอุระ เรย์จิ หนุ่มนักศึกษาวัย 20 ปี ขณะกำลังนั่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่ที่ห้องของตัวเอง พลางคิดถึงเพื่อนสาว มาริ ที่หายตัวไปอย่างลึกลับอยู่นั้น ก็มีคนมากดกริ่ง รู้ตัวอีกทีเข้าก็ตื่นมาพบกับคนแปลกหน้าอีก 6 คน ซึ่งมีวัยและหน้าที่แตกต่างกัน ทั้งเด็กผู้หญิง ทั้งสาวเรียบร้อย นักศึกษา โอตาคุ มนุษย์เงินเดือน โฮสต์สาว และนักเลงหัวไม้ ทั้งหมดถูกขังอยู่ในอาคารปริศนานี้ที่ทางออกทุกทางถูกปิดตาย
ความน่าสนใจของเรื่องนี้คือ การนำเอาพิธีศาสตร์มืดของจีนและญี่ปุ่นในอดีตมาเขียนอิงถึงกับเหตุการณ์ปัจจุบัน นั่นก็คือ พิธีกรรมโคโดคุ หรือพิธีกรรมที่นำสัตว์มีพิษรุนแรงต่างชนิด ต่างสายพันธุ์มารวมไว้ในไหเดียวกัน สัตว์ตัวไหนที่เหลือรอดเป็นตัวสุดท้ายเท่ากับว่ามีพิษร้ายแรงที่สุด ก็เปรียบเหมือนกับสถานการณ์ที่พระเอกของเรื่องเจอโดยการนำคนหลายๆ คนต่างที่มารวมกัน และอาศัยจิตวิทยาเข้าเล่นแง่คือ ห้องไม่มีทางออก ทุกทางถูกปิดทึบด้วยเหล็กหนาทั้งหมด และมีเวลานับถอยหลังกำหนดไว้ 7 วัน ซึ่งก็คือระยะเวลาที่มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอะไร
และที่น่าตกใจก็คือ นอกจากสถานที่แห่งนี้จะไม่มีทางออกแล้ว ยังมีห้องหนึ่งที่ถูกปูด้วยผ้าไวนิลรองกันกระแทกอย่างดี มีหม้อต้มสุกี้ และมีดปังตอที่ถูกคล้องด้วยโซ่เหล็ก อ่านเพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าคนที่จับทุกคนมารวมกันนั้นต้องให้ทุกคนฆ่ากันแล้วให้กินกันเองชัวร์ๆ ซึ่งแนวเรื่องก็ปูทางให้เป็นในรูปแบบนี้อยู่แล้ว ความโหยหิวหรือความผิดชอบชั่วดีฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะ แต่จะมีทริกวิธีการเล่นแง่กันอย่างไรนั้น คิดว่าน่าจะไม่เหมือนกับการ์ตูนเรื่องอื่นๆ เพราะเรื่องนี้เล่นกับจิตใจมนุษย์ที่ไม่ใช่แค่สัญชาตญาณดิบที่อยู่ในตัวเท่านั้น แต่ยังเล่นกับปมในอดีตของแต่ละคนด้วย ซึ่งในเรื่องก็จะมีแฟลชแบ็กย้อนให้ดูที่มาที่ไปของแต่ละคน
เมื่อคนหลายๆ คนต่างเอาชีวิตรอด ย่อมไม่มีการไว้เนื้อเชื่อใจกันเป็นธรรมดา และเพื่อจะเอาตัวเองรอดต้องมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ใครที่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนั้นมีโอกาสรอดสูง แต่อย่าคิดไปว่าคนที่ตัวใหญ่จะแข็งแกร่งสุด เพราะร่างกายที่ใหญ่โตกว่าก็ต้องใช้พลังงานเผาผลาญเยอะกว่าชาวบ้านซึ่งก็อาจจะเป็นจุดอ่อนในสถานการณ์เช่นนี้
บางคนโดนดีดกลุ่มออกมาอยู่คนเดียวก็ต้องฟุ้งซ่าน คิดมาก กลัวตัวเองจะถูกฆ่า ความน่ากลัวของมนุษย์คือการเล่นแบ่งพวกที่ให้คนที่โดนทิ้งอาจจะต้องจิตตก เห็นภาพหลอน สติแตกไปก็มี
แต่นอกเหนือจากการต้องฆ่ากันเพื่อเอาชีวิตรอดในแต่ละวันกันแล้ว ภายในเรื่องยังเล่นประเด็นข่มขืนด้วย เพราะผู้หญิงผู้ชายโดนจับมาอยู่ในที่เดียวกัน คนดีไม่ดีก็มีปะปนกันไป ย่อมมีเหยื่อให้สัตว์นักล่าผู้หิวกระหายเล่นงานแน่นอน แต่ใช่ว่าจะมีแต่นักล่า หมาป่าในคราบแกะก็มีอยู่ถมเถไปเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการจะเอาตัวรอดภายในเรื่องนี้ไม่ใช่สักแต่ว่าจะใช้กำลัง แต่ต้องใช้สมองหลอกล่อด้วย
ในเรื่องของภาพนับว่าทำได้ดีทีเดียวในแง่ของการ์ตูนแนวนี้ แต่ก็มีบางฉากที่เกิดจะรับไหว สมกับเป็นการ์ตูนติดเรต 18+ เพราะฉากข่มขืนถือว่าเห็นแล้วสะเทือนใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน อ้าปากหวอว่ามันต้องถึงขนาดนี้เลยเหรอ แต่สิ่งนี้ก็นับว่าเป็นความสกปรกของตัวมนุษย์ที่ถูกกดดันเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์บีบบังคับ
หลังจากอ่านเล่มหนึ่งจบก็ได้รู้ว่าความดาร์กของจิตใจมนุษย์นี่น่ากลัวเสียจริงและก็ยังคงเดาทางไม่ถูกเหมือนกันว่าเกมนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร ใครเป็นคนร้ายตัวจริง หรือประเด็นหลักการจับคนมารวมกันคืออะไรกันแน่? ปมปริศนาการเอาตัวรอดยังมีให้ไขอีกมากมาย ใครที่ชอบแนวเลือดสาด ใช้ความคิดจิตวิทยา ต้องห้ามพลาดเลยนะคะ