หลังจากที่เราได้เจาะลึกให้ผู้อ่านทุกท่านได้รู้จัก “คุมะมง” มาสคอตหมีสุดป็อปแห่งจังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่นกันแล้ว ล่าสุดก็มีข่าวดีสำหรับแฟนๆ ชาวไทยของหมีหน้ากวนตัวนี้ เมื่อเรามีร้านค้าอย่างเป็นทางการของคุมะมงมาเปิดในประเทศไทยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในร้านบีเทรนด์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นอกจากนี้อีกสาขาหนึ่งก็เพิ่งเปิดใหม่ที่ร้านบีเทรนด์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียมอีกด้วย
ในวันนี้ อนิไทม์ขอพาผู้อ่านทุกท่านมาทัวร์ช็อปคุมะมงที่สาขาสยามพารากอนกัน โดยครั้งนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณ “ปราง” บริญดา บรรพพงศ์ แบรนด์เมเนเจอร์คนเก่งจากบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ถือลิขสิทธิ์คุมะมงเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย มาเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับช็อปแห่งนี้ด้วย
คุณ “ปราง” บริญดา บรรพพงศ์
ช็อปคุมะมงสาขาสยามพารากอน เปิดทำการตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2558 อยู่ในโซนบีเทรนด์ ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นที่จำหน่ายสินค้าของเล่น หากเราเดินเข้าไปในพื้นที่ห้างฝั่งที่ตอนนี้จำหน่ายสินค้าริลัคคุมะ ก็จะเห็นสแตนดี้คุมะมงอยู่ตรงหัวมุมช็อปเลโก้ เพียงเดินตามทางที่คุมะมงชี้นิ้วไปก็จะพบช็อปของคุมะมงทันที หรือหากขึ้นจากบันไดเลื่อนที่อยู่กลางห้างสรรพสินค้าก็จะพบช็อปแห่งนี้ตั้งติดกับบันไดเลื่อนเลย
ที่นี่มีจำหน่ายสินค้าคุมะมงให้แฟนๆ เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสมุดโน้ต, แฟ้มใส, หมอนอิง, ตุ๊กตา, หมวก, กระเป๋าเครื่องเขียน ฯลฯ ในราคาเริ่มต้นเพียง 75 บาท และสิ่งที่จะทำให้คุณต้องประหลาดใจนั่นคือสินค้าเหล่านั้นมีใบหน้าของคุมะมงในหลากหลายรูปแบบ คุณปรางกล่าวว่าถึงแม้คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับหน้ายิ้มของคุมะมงที่เราพบเห็นตามคลิปและภาพถ่ายบนโซเชียลมีเดีย แต่ที่จริงแล้ว คุมะมงมีถึง 8 สีหน้าด้วยกัน ซึ่งมีทั้งสีหน้าดีใจ ตกใจ เรียบเฉย และบึ้งตึง เป็นต้น
เมื่อถามถึงความเป็นมาของการนำคุมะมงเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย คุณปรางเล่าว่า เมื่อบริษัทได้พบกับทางจังหวัดคุมาโมโตะเป็นครั้งแรก ก็เชื่อมั่นโดยทันทีว่าคุมะมงจะสามารถเป็นที่รักของชาวไทยได้ เพราะเป็นคาแร็คเตอร์ที่มีสเน่ห์และไม่เหมือนใคร จึงตัดสินใจนำแบรนด์คุมะมงมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รู้จัก หลังจากเปิดช็อปทั้ง 2 แห่งก็ได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคดีกว่าที่คาดหวังไว้มาก มีทั้งแฟนๆ ที่รู้จักคุมะมงอยู่แล้วตามมาอุดหนุน และลูกค้าขาจรที่ผ่านมาพบแล้วถูกใจก็มีมากไม่แพ้กัน ทางจังหวัดคุมาโมโตะเองก็ยินดีมากที่ชาวไทยชอบแม้จะเป็นการเปิดช็อปครั้งแรก จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่าในอนาคตบริษัทและจังหวัดคุมาโมโตะจะได้ร่วมมือกันมากขึ้นอีก
คุณปรางเล่าต่อว่า ก่อนที่จะเปิดช็อปแห่งแรกที่นี่ ทางบริษัทเคยเชิญคุมะมงมาเยือนประเทศไทยเพื่อสำรวจตลาดก่อนแล้วในงานแฟร์ประจำปีของสหกรุ๊ป ซึ่งในงานนั้นก็มีแฟนๆ ชาวไทยมาต้อนรับคุมะมงและทำกิจกรรมร่วมกันอย่างคับคั่งตลอด 4 วัน ก่อนจะพาคุมะมงไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพมหานคร เช่น เสาชิงช้า สนามหลวง วัดพระแก้ว ฯลฯ ผลของงานนั้นคือทางคุมะมงและทีมงานต่างก็ประทับใจในประเทศไทยมาก
(ภาพจากแฟนเพจ Kumamon Thailand)
สำหรับมุมมองที่บริษัทมีต่อตลาดสินค้าคาแร็คเตอร์ในประเทศไทย คุณปรางตอบว่าขณะนี้ถือว่าดีทีเดียว เพราะแต่ก่อนผู้บริโภคชาวไทยรู้จักคาแร็คเตอร์ชื่อดังจากญี่ปุ่นเพียงไม่กี่ตัว แต่ในระยะหลังคาแร็คเตอร์เกิดใหม่ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น และจำนวนไม่น้อยก็เป็นคาแร็คเตอร์ของชาวไทยเองอีกด้วย จึงมองว่าผู้บริโภคชาวไทยเริ่มคุ้นเคยกับคาแร็คเตอร์ต่างๆ มากขึ้นและตลาดของสินค้าที่เกิดจากคาแร็คเตอร์เหล่านี้ก็น่าจะเติบโตได้ดี ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของเหล่าผู้สร้างสรรค์ชาวไทย เพราะคาแร็คเตอร์คืองานดีไซน์ปลายเปิดที่สามารถต่อยอดไปเป็นสินค้าและบริการได้ทุกประเภท แต่สิ่งสำคัญคือผู้สร้างสรรค์ต้องรู้จักสร้างแบรนด์ให้เป็น ทำให้คาแร็คเตอร์เป็นที่รู้จัก มีเรื่องราวที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำและติดตาม หากทำได้ก็จะมีโอกาสต่อยอดในเชิงธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อถามถึงหัวใจสำคัญที่ทำให้คาแร็คเตอร์ประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจจากมุมมองผู้จำหน่ายสินค้า คุณปรางแนะว่านอกจากการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงแล้ว ผู้สร้างสรรค์ควรทำการบ้านโดยการศึกษาว่าผู้บริโภคนิยมคาแร็คเตอร์ลักษณะไหน แล้วดีไซน์ออกมาให้ได้ตามนั้น และที่สำคัญคือต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพราะบ่อยครั้งสินค้าคาแร็คเตอร์เป็นเพียงกระแสนิยมที่เกิดขึ้นเพียงช่วงหนึ่งแล้วก็ดับไป ถ้าจะให้คาแร็คเตอร์ที่สร้างมาอยู่ในตลาดได้อย่างยั่งยืน ก็จะต้องหาทางรักษาความนิยมอย่างต่อเนื่อง นี่ถือเป็นโจทย์สำคัญที่จะชี้ว่าคาแร็คเตอร์ตัวไหนจะประสบความสำเร็จหรือไม่
สุดท้ายอนิไทม์ได้ถามถึงความประทับใจส่วนตัวที่คุณปรางมีต่อคุมะมง คุณปรางตอบพร้อมอมยิ้มว่า ในตอนแรกเธอไม่ได้รู้จักคุมะมงเช่นเดียวกับคนอื่น แต่เมื่อได้พบกันครั้งแรกก็รู้สึกชอบทันที เธอชื่นชมคุมะมงในความเก่ง ที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด คุมะมงก็สามารถพลิกให้ทุกอย่างดีได้เสมอ เช่นในครั้งที่คุมะมงมาประเทศไทยแล้วเผลอทำเด็กเล็กร้องไห้เพราะกลัว แต่คุมะมงก็ทำให้เหตุการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนนั้นจบลงอย่างแฮปปี้ได้ จึงคิดว่าหากชาวไทยได้รู้จักคุมะมงก็น่าจะมีความสุขกับคุมะมงได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากช็อปทั้ง 2 สาขาที่เปิดทำการแล้ว ทางบริษัทไอ.ซี.ซี. อยู่ระหว่างการเจรจาเปิดสาขาที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพมหานครอีกหลายแห่ง และคาดว่าในอนาคตก็จะขยายออกสู่ต่างจังหวัดด้วย ไม่เพียงเท่านั้น คุณปรางยังเปรยไว้ว่าในปีนี้อาจมีโอกาสที่คุมะมงตัวจริงจะมาพบปะกับแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้ง จึงขอให้ติดตามข่าวสารจากแฟนเพจ Kumamon Thailand อย่างใกล้ชิด
และนี่ก็คือร้านค้าอย่างเป็นทางการของคุมะมงแห่งแรกในประเทศไทย โดยช็อปสาขาสยามพารากอนนี้จะตั้งอยู่บริเวณดังกล่าวจนถึงวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ก่อนที่จะย้ายสู่พื้นที่ถาวรที่อยู่ใกล้เคียงกันในโซนบีเทรนด์ และจะมีสินค้าใหม่ ๆ หมุนเวียนมาให้ทุกท่านได้เลือกซื้อและสะสมกัน ส่วนตอนนี้ทางร้านเขามีโปรโมชันซื้อครบทุก 500 บาทจะได้รับคูปองลุ้นรางวัลพิเศษ หมดเขตวันที่ 30 สิงหาคมนี้ และหากซื้อถึง 1,000 บาทก็จะได้รับกระเป๋าผ้าร่มลายคุมะมงฟรีทันที ยังไงก็ไปเยี่ยมชมและเลือกซื้อกันได้ หรือใครยังไม่สะดวกไปช็อปด้วยตนเองก็เลือกซื้อสินค้าน่ารักๆ ของคุมะมงที่ช็อปออนไลน์ของ ICC ก็ได้นะคะ~~~
ในโอกาสนี้ อนิไทม์ขอขอบคุณคุณปราง บริญดา บรรพพงศ์ จากบมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ที่สละเวลามาเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุมะมงให้เราฟัง และขอขอบคุณ BeTrend Siam Paragon ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำครั้งนี้ด้วยค่ะ