“ไอดอล ตัดขา หรือ ขายเครื่องใน ให้เลือกมาภายในห้าวิ”
สำหรับยากูซ่าที่ทำหน้าที่ผิดพลาดแล้วช่างเป็นคำถามที่ชวนสับสน แต่ครั้นจะทิ้งขาหรือเครื่องในก็ไม่ต่างอะไรกับสั่งให้ตาย ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ เป็นไอดอล ลบภาพไอดอลใสๆ ไร้เดียงสาให้หมดสิ้น เพราะวงการไอดอลได้พัฒนาการไปอีกขั้นแล้วใน Back Street Girls ไอดอลสุดซ่าป๊ะป๋าสั่งลุย ที่จะพาคุณไปพบกับความตลกและสนุกสนานไม่แพ้หนังเรื่องอื่นๆ
จากความฮาในมังงะที่รังสรรค์จาก จัสมิน กิวห์ สู่ภาพยนตร์ด้วยฝีมือการกำกับของ เคย์โนสุเกะ ฮาระ ร่วมเขียนบทโดย มัตสึโมโตะ โชอิจิโร่ และ อิโตะ ฮิเดฮิโระ อีกทั้งยังขนนักแสดงรุ่นใหม่มากฝีมือมารับบทไอดอลและยากูซ่าถึง 6 คน
- ชิราสุ จิน รับบทเป็น ลูกพี่ยามาโมโตะ เคนทาโร่
- ฮานาซาว่า มาซาโตะ รับบทเป็น ทาจิบานะ เรียว
- มาซากิ เรยะ รับบทเป็น สุงิฮาระ คาซุฮิโกะ
- โอคาโมโตะ นัตซึมิ รับบทเป็น ลีดเดอร์ ยามาโมโตะ ไอริ
- มัตซึดะ รุกะ รับบทเป็น คุณพี่ทาจิบานะ มาริ
- ซากาโนะอุเอะ อากาเนะ รับบทเป็น สุงิฮาระ จิกะ (เปี๊ยว?)
เมื่อศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ก็ขอกลายเป็นไอดอลมันซะเลย
จากความเลือดร้อนของวิถียากูซ่าส่งผลให้เกิดความผิดพลาดอันยากจะให้อภัยที่ต่อให้ตัดทั้งสิบนิ้วก็ไม่สามารถยกโทษให้ได้ของ 3 หนุ่มยากูซ่า เคนทาโร่ เรียว และ คาซุฮิโกะ พวกเขาต้องบากหน้ากลับมารับโทษจากบอสของแก็งตนที่ซึ่งเรียกว่า ‘ป๊ะป๋า’ ถึงแม้หัวหน้าจะเป็นคนโหดร้ายแต่ก็ไม่อำมหิตถึงขนาดจับโบกปูนโยนลงอ่าวโตเกียว กอปรกับด้วยความที่บอสเห็นว่ากลุ่มไอดอลอย่าง AKB48 สามารถหารายได้เป็นกอบเป็นกำ
มีหรือที่ไอเดียสุดบรรเจิดอันเกิดจากความโลภนี้จะอยู่เพียงในความคิด มิหนำซ้ำไม่จำเป็นต้องหาผู้หญิงให้เสียเวลาเสียด้วยเพราะตอนนี้ก็มีคนที่เข้าข่ายอยู่ ดังนั้นเขาได้ให้โอกาสลูกน้องเลือกโทษที่จะรับ ไม่ว่าจะเป็นการสละขา อวัยวะภายใน หรือไปเป็นไอดอล
“เลือกภายในห้าวิ! 5 4 3…”
“ไอดอลครับ!”
ไม่มีเวลาให้ทำใจเพราะทั้งสามหนุ่มถูกส่งไปทรานส์ฟอร์มที่ไทยยกเครื่องใหม่ทุกส่วนในทันที ไม่ว่าจะมองยังไงก็ ผู้หญิง หลังจากกลับมาก็ยังต้องรับการฝึกสุดโหดจากหัวหน้าเพื่อเดบิวต์เป็นกลุ่มไอดอลที่ใช้ชื่อว่า ‘โกคุดอลล์’ ณ ย่านอากิฮาบาระ
แต่วงโกคุดอลล์กลับดังซะงั้น! แม้จิตวิญญาณที่ยังคงเป็นยากูซ่าจะเริ่มร่ำไห้แต่ถึงอย่างไรหน้าที่ไอดอลก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง (เพื่อรักษาชีวิตที่เหลืออยู่) ถึงจะไม่เต็มใจในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วพวกเขาก็มีแต่ต้องไปต่อให้สุดทาง
สองวัฒนธรรมที่เข้ากันได้อย่างแปลกประหลาด
ญี่ปุ่นมักจะมีข่าวลือเรื่องที่ว่าไอดอลมีความเกี่ยวข้องกับยากูซ่าออกมาบ่อยๆ ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่แต่ โกคุดอลล์ ทำให้เราเห็นภาพว่าถ้าหากมันเป็นเรื่องจริงแล้วจะเป็นอย่างไร
Back Street Girls เป็นหนังคอเมดี้ที่ใส่มุกตลกจากมังงะได้ดี ทั้งฉากการดำเนินเรื่อง บทสนทนาของแก๊กต่างๆ ที่เคยมีอยู่ในมังงะก็ใส่เข้ามามากมายหลายตอนเอาใจแฟนการ์ตูนเต็มที่ และถึงแม้ว่าจะเคยอ่านมังงะมาแล้วแต่ก็ยังคงอดที่จะขำให้กับมุกที่ปล่อยออกมาไม่ได้ แถมบางมุกก็ได้รับการดัดแปลงให้ใหม่และตลกกว่าเดิม
ถึงโกคุดอลล์จะเป็นมังงะแก๊กที่เหมือนจะไม่มีเส้นเรื่องอะไรทว่าภาพยนตร์ก็ได้รับการปรับบทและเพิ่มประเด็นบางอย่างเข้ามาให้เราได้คิดตาม แต่เนื้อเรื่องก็เล่าออกมาแบบง่ายๆ ตรงๆ ใกล้เคียงต้นฉบับมังงะเพราะถึงอย่างไรแนวเรื่องก็ยังคงเป็นคอเมดี้ ดูง่ายไม่ต้องคิดตามมากนัก สมกับเป็นภาพยนตร์ที่ดูเพื่อความบันเทิงอย่างแท้จริง และชีวิตทั้งสองแบบของตัวละครทั้งสามก็ทำให้เราสัมผัสได้ชัดเจนว่า ยามเป็นผู้ชายพวกเขาก็เข้าถึงวิถียากูซ่าอย่างถึงแก่น แต่ยามเป็นผู้หญิงพวกเธอก็เป็นไอดอลด้วยหัวใจจริงๆ เรื่องนี้คงต้องชมเหล่านักแสดงทั้ง 6 ที่ถ่ายทอดอารมณ์ของยากูซ่าจากร่างกายไอดอลออกมาได้ค่อนข้างชัดเจน
พูดถึงยากูซ่าก็ต้องการบู๊แหลก ในเรื่องมีฉากแอ็กชันที่ทำออกมาได้ดี มีเทคนิกมุมกล้องที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์ญี่ปุ่น เวลาที่ตะลุมบอลก็แทบจะเห็นทุกมุมของตัวละครหลักว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยากูซ่าหนุ่มทั้งสามก็เดือดดาลบู๊แหลกได้ถึงใจ ช่างเป็นความมันที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นสปินออฟของ เรียกเขาว่าอีกา เลยก็ว่าได้
ร้อง เต้น เล่นเป็นไอดอลนี่ยากูซ่าจริงหรือ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวัฒนธรรมไอดอลของญี่ปุ่นก็คือการ ร้อง เต้น และ เอนเตอร์เทนกับเหล่าแฟนคลับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ภาพยนตร์จะสามารถสื่อให้เรารู้ได้ว่าทั้งสามสาว สามารถเดบิวต์เป็นไอดอลได้จริงๆแล้วก็คือ บทเพลงของวงตนเอง ด้วยความที่โกคุดอลล์เป็นวงที่มีป๊ะป๋าเป็นโปรดิวเซอร์ จังหวะเพลงที่สื่อออกมาจึงสนุกสนานในแบบไอดอลแต่แฝงเนื้อเพลงด้วยความดำมืดจากวงการยากูซ่า เมื่อได้ฟังแล้วมันช่างให้อารมณ์ที่ขัดกันจนรู้สึกอยากหัวเราะออกมา
ไม่เพียงเท่านั้นบทเพลงที่เคยถูกเขียนภายในมังงะอย่าง นิ้วก้อยของเธอ จอกแห่งรัก และสู่เกาะแห่งฝัน ก็ถูกปรับแต่งและบรรเลงใหม่จนกลายเป็นเพลงเต็มรูปแบบขึ้นมา ทั้งสามเพลงค่อนข้างแตกต่างจากเพลงประกอบอนิเมะที่ฉายทาง netflix อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเพลงประกอบแต่ละเพลงก็ทำให้รู้สึกราวกับว่าเราได้ไปดูคอนเสิร์ตของไอดอลอยู่จริงๆ อนุมานได้ว่านี้คือ เพลงอัลบั้มใหม่จากเหล่าโกคุดอลล์เลยก็ว่าได้
อย่าลืมว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนเป็นหนุ่มยากูซ่า เรื่องความห้าวแบบใจถึงขอให้บอก พวกเธอไม่มียอมใครแน่นอน ช่วงที่ต้องแอ็กชันพวกเธอก็ลุยเต็มที่ ช่วงที่ต้องฝึกกับบอสก็จัดเต็มไม่ห่วงสวย แต่ในฉากที่ต้องแสดงความเป็นยากูซ่าออกมาด้วยน้ำเสียงของหญิงสาวไอดอลก็ทำให้รู้สึกแอบน่ารักปนห้าวเล็กๆ
ลืมความน่ากลัวของยากูซ่าจริงๆ ไปแล้วรึเปล่า?
บริบทของตัวมังงะที่เป็นการ์ตูนแก๊ก ช่วงเวลาที่ได้เห็นอะไรเกินจริงอย่างการที่เหล่าตัวเอกถูกซ้อมและจับตัวไปตอนก่อเรื่องก็ทำให้เรารู้สึกฮาได้ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นฉากซีเรียส ทว่าในความเป็นจริงแล้วหากเกิดเหตุการณ์ตามที่กล่าวไปขึ้นกับคนจริงๆ มันช่างเป็นอะไรที่ขำไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
ตัวภาพยนตร์สามารถทำให้เรารู้สึกอย่างนั้นได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ขึงขังทีเล่นทีจริงหรือน้ำเสียงขู่กระโชกโฮกฮากที่สร้างความผวา เช่นในยามที่เหล่ายากูซ่าคู่อริมีบทออกโรงต้องใช้ความรุนแรงหรือฉากที่ต้องต่อสู้ก็ให้ความรู้สึกกดดันว่าพวกเขาที่เป็นยากูซ่าช่างน่ากลัว
ตัวตนของตัวเองจริงๆ แล้วเป็นอย่างไรกันแน่?
เป็นประเด็นที่ค่อนข้างน่าสนใจที่ผู้ชายต้องมากลายเป็นผู้หญิงแถมยังน่ารักเสียด้วย ไหนจะแฟนคลับมากมายที่คอยสนับสนุน ซ้ำยังชื่อเสียงที่ตามมา จนเผลอทำให้มีคิดที่โผล่ขึ้นมาว่า เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วหรือเปล่า? ตัวตนของเราเมื่อก่อนเป็นอย่างไร? เรายอมรับนับถือวิถีเดิมของตนจริงไหม?
เมื่อเทียบอดีตกับปัจจุบันแล้วตัวตนของเราภายในเปลี่ยนตามภายนอกไปแล้วรึเปล่า สิ่งเหล่านี้เป็นคำถามที่เหล่ายากูซ่าในร่างสาวทั้งสามต้องค้นหา ซึ่งมันทำให้คนดูอย่างเราๆ ได้คิดตั้งคำถามแล้วย้อนมองถึงตัวตนของตัวเองจริงเช่นกัน ว่าตัวเราตอนนี้เป็นตัวเราจริงๆ ที่เรายอมรับแล้วหรือยัง?
ไม่จำเป็นต้องคว้ามีดมาตัดนิ้วก้อยให้เสียเลือด แต่มาสะบัดแท่งไฟให้เดือดกับ Back Street Girls ไอดอลสุดซ่าป๊ะป๋าสั่งลุย วันที่ 27 มิถุนายนนี้
ชมตัวอย่าง Back street girl ไอดอลสุดซ่า ป๊ะป๋าสั่งลุย