แม้ว่าถ้าพูดถึงดอกไม้ในประเทศญี่ปุ่น ใครๆ ต่างก็จะนึกถึงกับซากุระเป็นอันดับแรก แต่ในความเป็นจริงนั้นประเทศญี่ปุ่นมีดอกไม้หลากหลายชนิดที่ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเองต่างก็ชื่นชอบ ทำให้แม้ว่าดอกซากุระจะบานเพียงแค่ในช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน (สำหรับในโตเกียว พื้นที่อื่นๆ จะมีระยะเวลาบานต่างกัน) แต่ประเทศญี่ปุ่นนั้นก็มีดอกไม้ให้ได้ชมแทบจะตลอดทั้งปี
ดอกบ๊วย หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า อุเมะ (梅) นั้นโดยปกติแล้วจะบานก่อนดอกซากุระประมาณเดือนนึง ซึ่งในโตเกียวนั้นจะหาดูได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนอาจจะเลยไปต้นมีนาคมสักหน่อย ซึ่งดอกบ๊วยนี้จะมีหน้าตาคล้ายกับดอกซากุระมาก ทำเอาหลายคนเข้าใจผิดมาแล้วนักต่อนัก จุดสังเกตก็คือกลีบของดอกบ๊วยนั้นจะกลมสวยในขณะที่กลีบดอกซากุระจะมีรอยหยักเล็กน้อยที่ตรงปลายครับ
สำหรับในรอบนี้ ผมเลือกที่จะมาชมดอกบ๊วยที่สวนเคย์โอ โมกุสะเอ็น (京王百草園) ทั้งนี้เพราะจากหอพักของผมสามารถนั่งรถไฟต่อเดียวไปถึงได้เลย แถมช่วงนี้ยังมีจัดเทศกาลชมดอกบ๊วยพอดิบพอดีอีกด้วย การเดินทางก็ไม่ยาก เพียงแค่นั่งรถไฟสายเคย์โอ (京王線) ด้วยขบวนรถแบบ Rapid หรือ Semi Express มาลงที่สถานี โมกุสะเอ็น (百草園) ตามชื่อสวนเลย และเดินตามป้ายไปอีกประมาณ 600 เมตร ก็จะถึงสวนแห่งนี้ครับ
ถึงแม้จะบอกว่าระยะทางเพียง 600 เมตร แต่ก็เป็น 600 เมตรที่หนักหนาสาหัสเอาการ เพราะด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน ทางเดินในช่วง 300 เมตรหลังจึงเป็นพื้นลาดชันที่ชันเอาการเหมือนกัน หากใครสภาพขาไม่ค่อยดีก็ระวังตัวกันด้วยนะครับ
หยุดแวะพักขอพรกับท่านจิโซกันสักหน่อย
เพราะระหว่างทางมีป้ายบอกทางไปสวนโมกุสะเอ็นเรื่อยๆ หากจำตัวอักษรชื่อสวนได้ก็ไม่ต้องกลัวหลงกันง่ายๆ
พอมาถึงหน้าสวนแล้วก็จะพบกับสภาพพื้นที่เต็มไปด้วยกลีบดอกบ๊วยสีขาวสลับชมพูร่วงโปรยปรายเต็มไปหมด ชำระค่าเข้าสวน 300 เยน (เด็ก 100 เยน) และก็เตรียมกล้องถ่ายรูปเข้าไปเก็บภาพดอกบ๊วยกันเลย
ตรงซุ้มชำระเงินที่ประตูทางเข้าเองก็มีแผนที่ภายในสวนให้หยิบ หรือใครจะมาดูแผนที่ใหญ่ภายในสวนนี้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งแผ่นที่นี้จะบอกจุดชมดอกไม้นานาชนิดที่มีในสวนนี้ พร้อมกับช่วงเวลาว่าเดือนไหนของปีที่น่ามาชมมากที่สุด ทำให้ได้รู้ว่าสวนนี้เองนอกจากดอกบ๊วยที่เป็นตัวชูโรงแล้ว ช่วงเวลาอื่นของปีก็ยังมีดอกไม้สารพัดชนิด รวมทั้งใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงให้ชมกันอีกด้วย
เพราะวันก่อนหน้าผมมานั้นมีฝนตก สภาพพื้นดินจึงค่อนข้างแฉะเล็กน้อย แต่ก็ได้เห็นภาพกลีบดอกบ๊วยโปรยปรายในแอ่งน้ำเล็กๆ เป็นของแลกเปลี่ยน
นอกจากดอกบ๊วยแล้ว ในช่วงนี้ก็มีดอกไม้ชนิดอื่นที่บานให้ชมกันอยู่บ้าง แม้ว่าบางต้นอาจจะยังไม่บานเต็มที่เพราะไม่ใช่ฤดู หรืออาจจะใกล้เหี่ยวไปแล้วบ้างก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นโบนัสเล็กๆ น้อยๆ สำหรับคนที่ตั้งใจมาดูดอกบ๊วยอย่างเดียวแบบผม
หากเดินชมรอบสวนจนเหนื่อยแล้ว ที่นี่ก็ยังมีเก้าอี้ให้นั่งพัก รวมทั้งโซนขายอาหารให้เราได้ซื้อมาทานเติมพลังกันอีกด้วย ผมก็เลยได้จัดซาลาเปาไส้ผักกับเหล้าหวานร้อนๆ มาทานไปพลางชมดอกบ๊วยไปพลาง ร้านค้าตรงนี้ยังมีขายบ๊วยดองอีกด้วยนะ สมกับที่เป็นเทศกาลดอกบ๊วยจริงๆ
ในวันที่ 3 มีนาคมนี้ที่กำลังจะมาถึง ก็จะเป็นวันเด็กผู้หญิง หรือฮินะมัตสึริอีกด้วย ที่นี่ก็เลยมีมุมจัดตุ๊กตาฮินะและของประดับประดาอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลชมดอกบ๊วยนี้ให้ได้ชมกัน
สำหรับใครที่วางแผนจะมาชมดอกบ๊วยที่นี่ ก็รีบหน่อยนะครับ เพราะคาดว่าจะบานถึงแค่ช่วงต้นเดือนมีนาคมเท่านั้น ถ้าพลาดโอกาสนี้ไปต้องรออีกทีปีหน้าเลย