แอนิเมชันค่ายจิบลิที่สร้างความประทับใจมาแล้วให้ใครหลายคนอย่าง Spirited Away ที่ไม่ว่าจะกลับมาดูอีกสักกี่ครั้งก็ยังคงประทับใจไม่มีเปลี่ยน กับเรื่องราวมหัศจรรย์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกภูต และความสัมพันธ์อันแสนบริสุทธิ์ของเทพแห่งแม่น้ำ ฮาคุ กับสาวน้อย จิฮิโระ ที่เชื่อว่าต้องมีคนเคยร้องไห้ให้กับสองคนนี้อย่างแน่นอน
ครั้งแรกที่เราได้พบกัน
ในตอนที่เจอกันครั้งแรก หลังจากที่สาวน้อย จิฮิโระ และครอบครัวหลุดเข้ามาอยู่ในโลกวิญญาณ พ่อและแม่ของเธอเอาแต่กินของแปลกหน้าอย่างหมูมูมมามอยู่นั้น จิฮิโระก็เดินสำรวจเมืองไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้พบกับหนุ่มผมบ๊อบ ฮาคุ ในชุดฮากามะสมัยโบราณบนสะพานข้ามแม่น้ำ ครั้งแรกที่เขาได้เจอเธอก็ทำสีหน้าประหลาดใจมากพร้อมกับพูดคำว่า “เจ้าห้ามมาที่นี่ กลับไปซะ! ก่อนที่ฟ้าจะมืด”
ในขณะที่จิฮิโระกำลังแปลกใจอยู่นั้นพระอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้า ผู้คนในเมืองต่างเริ่มจุดโคมเมื่อถึงเวลาพลบค่ำ ฮาคุเห็นว่าจะไม่ทันการจึงรีบถ่วงเวลา และไล่ให้จิฮิโระข้ามแม่น้ำไป สาเหตุที่เขาทำหน้าสีหน้าแบบนั้นแล้วไล่จิฮิโระกลับทันทีนั่นเป็นเพราะ เขารู้จักจิฮิโระมาตั้งแต่สมัยยังเด็ก จึงรู้ว่าเธอเป็นมนุษย์ และไม่สมควรเข้ามาที่นี่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้เธอกลับไปที่โลกของตัวเอง
พร้อมที่จะช่วยเหลืออยู่เสมอ
จิฮิโระที่กำลังอยู่ในอารมณ์สิ้นหวัง พ่อแม่กลายเป็นหมู ทางกลับบ้านก็กลายเป็นแม่น้ำ แถมยังมีพวกตัวประหลาดเดินอยู่รอบเมืองอีก เธอเอาแต่ร้องไห้และพร่ำบ่นว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่แล้วเธอก็สังเกตได้ว่าร่างกายของตัวเองเริ่มจางหายไป จนฮาคุเข้ามาพบเธอ และขอให้กิน ลูกกวาด ที่ช่วยทำให้ร่างฟื้นกลับมา เพราะถ้าไม่กินของที่อยู่ในโลกนี้ร่างกายก็จะหายไป ในทีแรกจิฮิโระยังคงหวาดกลัวหนุ่มแปลกหน้าอยู่ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมให้ฮาคุป้อนลูกกวาดเม็ดนั้น
เมื่อจิฮิโระกินลกกวาดเข้าไปร่างกายของเธอก็ฟื้นคืนกลับมาดั่งปกติ ฮาคุได้ยื่นมือให้จิฮิโระสัมผัสเพื่อเป็นหลักฐานแน่ชัดว่าเธอจะไม่หายไปอีก หลังจากนั้นฮาคุพยายามออกไปหาที่หลบซ่อนจากแม่มดให้ แต่ขาของจิฮิโระกลับไม่สามารถก้าวเดินได้ไหว ฮาคุจึงนั่งลมพร้อมกับกุมมือจิฮิโระแล้ว ร่ายมนต์ ให้เธอกลับมาเดินได้ดั่งเดิม “ในนามสายลม และสายน้ำ… โปรดมอบพลังให้เธอ” สิ้นสุดคำพูด ทันใดนั้นขาของจิฮิโระก็สามารถกลับมาเดินได้เหมือนเดิม แถมยังว่องไวกว่าปกติเสียอีก ฮาคุจึงรีบจับมือพาจิฮิโระไปหาที่ซ่อนโดยไว สังเกตได้เลยว่าไม่ว่าจิฮิโระจะพบกับอุปสรรคอะไร ฮาคุก็พร้อมที่จะช่วยเหลืออยู่เสมอ
ข้าวปั้นแห่งน้ำตา
ในระหว่างที่ฮาคุกับจิฮิโระพูดคุยกันถึงเรื่องชื่อ ฮาคุก็ได้ มอบข้าวปั้น ที่พกมาด้วยให้จิฮิโระกินเพิ่มพลัง ความพิเศษคือข้าวปั้นก้อนนี้เป็นข้าวปั้นที่เขาร่ายมนต์เพื่อคืนกำลังให้จิฮิโระ เพราะเขารู้ว่าตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ที่โลกนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องสักนิด ในทีแรกจิฮิโระยังมีท่าทีดึงดันไม่อยากกินเนื่องด้วยใจคิดถึงพ่อแม่ แต่สุดท้ายเธอก็หยิบข้าวปั้นนั้นเข้าปากพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุด เขาเอื้อมแขนโอบไหล่ปลอบใจเธอพร้อมกับยื่นข้าวปั้นให้อีกก้อน ในโลกแปลกประหลาดนี้ทำให้จิฮิโระรู้สึกอ้างว้างเดียวดาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีฮาคุที่คอยอยู่เคียงข้างให้เธอได้อุ่นใจอยู่เสมอ
ชื่อที่ไม่เคยลืมเลือน
จิฮิโระที่ถูกฮาคุเรียกตัวออกไปคุยในที่ลับ และอธิบายให้จิฮิโระจดจำชื่อจริงของตัวเองไว้ เพราะในโลกแห่งนี้แม่มดยูบาบาปกครองคนอื่นโดย การขโมยชื่อ ของพวกเขาไป หากนางเอาชื่อจริงของจิฮิโระไปได้ เธอจะไม่สามารถกลับไปที่โลกมนุษย์ได้อีกเลย แต่แล้วฮาคุก็กล่าวประโยคหนึ่งที่ทำให้จิฮิโระถึงกับต้องแปลกใจ “ข้าจำชื่อตัวเองไม่ได้แล้ว แต่แปลกนะข้าจำชื่อของเจ้าได้” ในความทรงจำของฮาคุนั้นไม่มีแม้แต่ชื่อของตัวเองอยู่เลยแท้ๆ แต่น่าแปลกที่เขากลับจำชื่อของจิฮิโระได้ขึ้นใจ อาจเป็นเพราะความผูกพันในอดีตที่ยังคอยสะกิดใจของฮาคุอยู่ก็เป็นได้
อีกครั้งกับความทรงจำเรื่องชื่อ เมื่อมังกรที่จิฮิโระเคยเห็นในครั้งก่อนได้บินโซซัดโซเซอยู่บนท้องฟ้าด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส เธอที่กำลังยืนมองอยู่ตรงระเบียงพยายามหาทางช่วยเขาจึงตะโกนออกไปเต็มเสียงว่า “ฮาคุ แข็งใจไว้นะ มาทางนี้!” จิฮิโระเรียกมังกรตัวนั้นให้เข้ามาหลบในที่พัก พร้อมกับเอะใจว่าทำไมตัวเองถึงเรียกมังกรว่า ฮาคุ ทั้งๆ ที่แทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับมังกรตัวนั้นเลยสักนิดเดียว สิ้นเสียงของจิฮิโระ มังกรที่บาดเจ็บก็พุ่งตัวเข้ามาหลบภายในห้องได้สักพักก่อนจะหลบหนีออกไปอีกครั้ง แม้จิฮิโระจะไม่มั่นใจว่านั่นใช่ฮาคุหรือไม่ แต่เธอก็เลือกที่จะตามไปช่วยเหลือจนถึงที่สุด
แม้อ่อนแอ แต่ก็ช่วยสุดใจ
ไม่ได้มีแค่ฝั่งฮาคุเท่านั้นที่คอยช่วยเหลือจิฮิโระอยู่ตลอดเวลา ฮาคุที่กลายร่างเป็นมังกรไปทำภารกิจขโมยตราประทับตามคำสั่งของแม่มดยูบาบาก็ถูกเล่นงานกลับมาจนบาดเจ็บสาหัส เขาบินเข้าไปหลบในปราสาท และเอาตัวเข้าปกป้องจากแม่มดเซนิบาผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดของยูบาบา แม้อีกฝ่ายจะเป็นแม่มดแต่เธอก็พยายามสู้ขาดใจเพื่อให้ฮาคุปลอดภัย สุดท้ายฮาคุที่เป็นมังกรก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายเอาหางฟาดไปที่ตุ๊กตากระดาษที่เป็นร่างจำแลงของแม่มดเซนิบาจนขาดหายไป
มังกรฮาคุ และจิฮิโระตกลงมาที่ห้องเครื่องอาบน้ำของคามิจิ จิฮิโระเห็นท่าว่าอาการของฮาคุในสภาพมังกรเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ มีอาการเลือดทะลักออกปากจนตาแทบจะลืมไม่ขึ้น เมื่อรู้ว่าฮาคุโดนพิษเล่นงานภายในร่างกาย เธอจึงตัดสินใจเอาขนมยาสมุนไพรที่เทพแห่งแม่น้ำให้มา ป้อนเข้าไปในปากมังกร ซึ่งเป็นเรื่องที่ลำบากมากเมื่อเขาบาดเจ็บหนักถึงกับเปิดปากเองไม่ได้ กว่าจิฮิโระจะง้างและใส่ยาเข้าไปได้ถึงกับต้องทุ่มทั้งตัวกดทับที่ปากมังกรเอาไว้เพื่อให้เขากลืนยาลงไป จนในที่สุดเขาก็บ้วนพิษนั้นออกมา และค่อยๆ กลับร่างมนุษย์ดังเดิม จิฮิโระเห็นดังนั้นก็ใจชื้นขึ้นมาทันทีเมื่อมังกรที่ตัวเองพยายามช่วยเหลือมาครึ่งค่อนวันกลายเป็นฮาคุดั่งที่ใจตัวเองคิดไว้จริงๆ อีกทั้งจิฮิโระยังตัดสินใจจะเอาตราประทับที่ฮาคุขโมยมาไปคืนด้วยตัวของเธอเอง พร้อมให้สัญญากับฮาคุว่า “ฮาคุ ฉันสัญญาว่าจะกลับมา เพราะงั้นอย่าเพิ่งตายนะ” แม้ว่าเธอจะเป็นเด็กผู้หญิงที่เงอะงะ แต่เธอก็พยายามช่วยฮาคุที่คอยปกป้องเธอมาตลอดสุดหัวใจ
ความทรงจำ น้ำตา และความผูกพัน
หลังจากจิฮิโระได้ตัดสินใจเอาตราประทับมาคืนแม่มดเซนิบาแล้ว เธอก็กังวลเป็นห่วงฮาคุที่นอนสลบอยู่จึงขอบอกลาแม่มดเซนิบา แต่ทว่าในตอนนั้นก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมเยียน เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบกับ ฮาคุในร่างมังกร เขาหายจากอาการบาดเจ็บเป็นปลิดทิ้ง และเดินทางมารับจิฮิโระกลับไปหาพ่อแม่ด้วยตัวเองถึงที่ จิฮิโระเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปกอดฮาคุในร่างมังกรทันที และแน่นอนว่าฮาคุก็คลอเคลียตอบเช่นกัน เป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
และฉากที่ทำให้คนดูอย่างเราถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ก็ต้องเป็นตอนที่จิฮิโระกำลังขี่บนหลังมังกรฮาคุเพื่อเดินทางกลับ เธอได้เล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังว่าครั้งหนึ่งที่ยังเป็นเด็ก แม่เคยเล่าให้ฟังว่าเธอเกิดพลัดตกลงไปยังแม่น้ำแห่งหนึ่ง ในขณะที่คิดว่าตัวเองกำลังจะจมน้ำตาย กระแสน้ำก็ได้พัดตัวเธอขึ้นไปบนฝั่งจนรอดชีวิต สิ่งที่จิฮิโระจำได้มีเพียงแค่แม่น้ำแห่งนั้นชื่อว่า แม่น้ำโคฮาคุ และเธอก็มั่นใจว่านั่นเป็นชื่อจริงของฮาคุที่เขาได้ลืมเลือนหายไปนานแสนนาน
ทันทีที่มังกรฮาคุได้ยิน ร่างกายของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นมนุษย์อีกครั้ง ท่ามกลางลอยอยู่บนฟ้าทั้งสองคนได้จับมือกัน และทำให้ฮาคุได้ตระหนักว่าตัวเองนั้นเป็นเทพแห่งสายน้ำโคฮาคุก่อนที่จะเอ่ยปากกับจิฮิโระว่า “ขอบคุณนะจิฮิโระ ชื่อจริงของข้าคือ นิจิฮายามิ โคฮาคุ นูชิ” เขาสามารถจำเรื่องราวในอดีตระหว่างกันได้แล้วทั้งหมด จิฮิโระที่ได้ยินก็รู้สึกขอบคุณฮาคุจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ น้ำตาแห่งความดีใจ และความผูกพันลอยล่องอยู่บนท้องฟ้าท่ามกลางความสุขของเด็กทั้งสองคน
แต่เมื่อจิฮิโระเป็นมนุษย์ และฮาคุเป็นเทพแห่งแม่น้ำ ทั้งสองจึงต้องลาจากกันไปสู่โลกของตัวเอง ก่อนจะจากกันไปจิฮิโระและฮาคุให้สัญญาต่อกันว่า เราจะได้พบกันอีกแน่นอน ในระหว่างที่ปล่อยมือออกจากกัน ฮาคุยังคงค้างมือไว้อยู่อย่างนั้นเหมือนไม่อยากปล่อยมือคู่นี้ไป และทางด้านจิฮิโระเมื่อออกจากอุโมงค์ได้แล้ว เธอก็ยังคงยืนจ้องมองอุโมงค์นั้นเหมือนไม่อยากจากที่แห่งนี้ไปเช่นเดียวกัน
เชื่อว่าแม้ทั้งสองคนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่การพบพานกันครั้นยังเป็นเด็กจนมาเจอกันอีกครั้งในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน แต่เป็นโชคชะตาที่พวกเขาทั้งสองผูกคล้องด้วยกันมาก่อเกิดเป็นความรักอันแสนบริสุทธิ์ที่ ไม่ต้องเอ่ยคำว่ารัก แต่ก็มีความสุขร่วมกันได้อย่างงดงาม