เคยอ่านเจอกระทู้ Pantip กระทู้หนึ่ง มีคนมาตั้งคำถามว่า คนที่ชอบคนเเก่ เป็นคนมีปมด้อยหรือเปล่าคะ? หลายๆ ความเห็นก็บอกว่าไม่ใช่ปมด้อยหรอก แต่เป็นรสนิยมมากกว่า
อ่านไปเรื่อยๆ ก็มาสะดุดกับความเห็นที่ว่า เป็นคนแปลก อีกความเห็นบอกว่า เด็กที่ชอบคนแก่มีน้อย แสดงว่าไม่ปกติ
วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับการ์ตูนเรื่อง After the rain หรือ เส้นทางชีวิตลิขิตหัวใจ (ลิขสิทธิ์โดย SIC) ที่จะทำให้คุณหายสงสัยว่า ทำไมผู้หญิงถึงชอบผู้ชายอายุมากกว่าตัวเองหลายปี
การ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ทาจิบานะ อากิระ เด็กสาวมัธยมปลายผู้เป็นดั่งความหวังของชมรมกรีฑาเกิดประสบอุบัติเหตุเอ็นร้อยหวายฉีกขาดจนต้องเข้ารับการผ่าตัด ขาของเธอเกิดความเสียหายรุนแรงจึงไม่อาจกลับมาวิ่งได้ในเร็ววัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางหาย หากได้รับการทำกายภาพอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง เธอก็มีโอกาสที่จะกลับมาวิ่งได้ ทว่าเธอกลับถอดใจในความฝันที่จะเป็นนักวิ่ง
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงชีวิตที่เธอเหมือนอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักจนมองไม่เห็นทางข้างหน้าให้ก้าวต่อไป จึงต้องหยุดอยู่กับที่ปล่อยให้สายฝนสาดเทลงมาที่ตัวเธอไปเรื่อยๆ แต่โชคชะตาก็นำพาให้เธอได้เจอกับ คอนโด มาซามิ ผู้จัดการร้านอาหารที่อากิระเข้าไปหลบฝน วัยสี่สิบห้าปีที่ได้เข้ามาพูดคุย จากการพบกันครั้งนั้นจิตใจของเธอก็เริ่มสดใสขึ้น
เป็นความอบอุ่นในช่วงเวลาที่เราหนาวเหน็บ
ความอบอุ่นของผู้จัดการร้านอาหารคนนี้ อากิระนั้นสัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน…
ทาจิบานะ อากิระ ได้เจอกับคอนโด มาซามิ ในวันที่เธอเข้าไปหลบฝนในร้านอาหารครอบครัวใกล้กับคลินิกที่เธอรักษาขาอยู่
เธอนั่งมองสายฝนที่กำลังซัดสาดอยู่ด้านนอกด้วยสายตาเศร้าหมอง แต่แล้วผู้จัดการร้านวัยสี่สิบห้าปีที่ได้เข้ามาเสิร์ฟกาแฟดำที่โต๊ะโดยที่เธอไม่ได้สั่งเครื่องดื่มใดๆ แต่ด้วยท่าทางลังเลของอากิระทำให้ผู้จัดการคิดว่าเธออาจจะไม่ชอบดื่มกาแฟดำ จึงได้ใช้มายากลเล็กน้อย เสกน้ำตาลขึ้นมาในมือ ซึ่งนั่นทำให้อากิระอารมณ์ดีขึ้นมา
เดี๋ยวฝนก็หยุดตกแล้วล่ะ
แม้จะเป็นคำพูดง่ายๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันกลับซึมลึกเข้าไปถึงจิตใจของอากิระเพราะในตอนนี้เธอก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ทั้งที่รักการวิ่งแต่ขาก็ดันใช้งานไม่ได้ขึ้นมา แต่คำพูดของผู้จัดการในวันนั้นทำให้เธอเกิดกำลังใจในการก้าวต่อขึ้นมา
ไม่ว่าฝนจะตกหนักมากเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ว่าจะตกไปตลอดปีตลอดชาติ เดี๋ยวสักพักมันก็หยุดตก ชีวิตของเราก็เหมือนกันไม่ว่าจะเจอเรื่องที่หนักหนามาสักเท่าไหร่ก็ต้องมีวันที่ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
จากการพบกันครั้งนั้นจิตใจของเธอก็เริ่มสดใสขึ้นอีกทั้งยังเกิดความสนใจในตัวของผู้จัดการวัยกลางคนที่ช่วยให้กำลังใจเธอในยามที่ท้อใจอย่างไม่รู้ตัวคนนี้ หลังจากนั้นไม่นานนักเธอจึงเริ่มเข้าทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านอาหารแห่งนี้ทันที
และเมื่อเข้ามาทำงานที่ร้านแห่งนี้ อากิระก็ได้สัมผัสกับความอบอุ่นใจดีของเขาอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถพาเธอไปส่งคลินิกอย่างรีบร้อนเมื่อเธอเจ็บขา หรือเอาขนมมาแสดงความขอโทษกับครอบครัวของอากิระ เพราะเรื่องที่เธอได้รับบาดเจ็บที่ร้าน
ไม่อ้อมค้อม
ตอนที่อากิระสารภาพรักกับผู้จัดการท่ามกลางสายฝนในครั้งแรก ผู้จัดการไม่แน่ใจว่าเธอพูดเล่นหรือเป็นการพนันกับเพื่อนๆ เพื่อแกล้งให้เขาเสียหน้าหรือเปล่า
แต่พอมีการสารภาพรักครั้งที่สอง ผู้จัดการก็ได้ขับรถพาอากิระไปคุยเป็นการส่วนตัวเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะชวนให้มาลองเดตกันก่อน ถ้าไม่ไหวก็ขอบายได้
“ทาจิบานะซังยังไงก็คิดเรื่องนี้ให้ดีก่อนเถอะ ผู้ชายอายุ 45 ที่ไม่มีทั้งความฝันและความหวัง เธอชอบฉันตรงไหนเหรอ”
ส่วนใหญ่คนที่อายุมากแล้วจะค่อนข้างมีความชัดเจนในความสัมพันธ์รวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย จึงทำให้เขาอยากรู้อะไรก็ถามเลย ไม่ปล่อยให้เกิดความค้างคาใจจนแต่ละฝ่ายคิดไปเอง ซึ่งจุดนี้นี่แหละค่ะที่ทำให้สาวน้อยชอบนักแล เพราะไม่ต้องคอยมาคิดว่า แล้วสรุปเราเป็นอะไรกันแน่ มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนหรือเปล่า?
เปิดมุมมองใหม่ๆ
ตอนที่ทาจิบานะบังเอิญเจอผู้จัดการที่ร้านหนังสือ เธอขอให้เขาช่วยแนะนำหนังสือที่ควรอ่านหน่อย เพราะเธอไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าไรนักเลยไม่รู้ว่าจะอ่านอะไรดี
แต่ผู้จัดการได้เปิดมุมมองในการอ่านหนังสือของเธอว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านอะไรตามที่เขาอ่านก็ได้เพราะรสนิยมการอ่านของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การได้อ่านหนังสือที่ตรงกับความต้องการของตัวเองจะทำให้มีความสุขในการอ่านมากกว่า ที่สำคัญการอ่านหนังสือไม่จำเป็นต้องอ่านอะไรที่มีแต่ตัวอักษรก็ได้ จะเป็นหนังสือภาพหรือนิทานก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น
“หนังสือน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่จะอ่านจากคำแนะนำของคนอื่นหรอก โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ ถ้าอ่านตามแล้วไม่ชอบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาก็จะรู้สึกไม่ดีใช่ไหมล่ะ อาจจะเกลียดการอ่านไปเลยก็ได้
ที่นี่เป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโยโกฮาม่า เพราะฉะนั้นจะต้องมีมีหนังสือที่เหมาะกับทาจิบานะซังและรอให้ทาจิบานะซังมาอ่านอยู่ก็ได้”
โรแมนติกกว่าที่คิด
การคบคนอายุมากกว่าไม่ใช่จะมีภาพเดทที่น่าเบื่อ เข้าวัดฟังธรรมหรืออะไรแบบนี้เลย ในความเป็นจริงแล้วรุ่นใหญ่นั้นสวีทแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นทริปต่างประเทศ ดินเนอร์หรือความโรแมนติกเล็กๆ จากการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนในวันหยุด แถมเขายังให้เกียรติเรามากๆ อีกด้วย
นอกจากการเดตแบบพื้นๆ อย่างการดูหนังฟังเพลง กินข้าวกินขนมแล้ว เราอาจจะได้ลองเดตแบบธรรมดาแต่กลับแปลกอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ เพราะในการเดตครั้งต่อมา มาซามิก็ได้พาอากิระไปเดตในที่ที่เธอจะได้รู้จักตัวตนของเขามากขึ้น นั่นก็คือ ตลาดหนังสือมือสอง
ทำอะไรน่ารักๆ แบบที่เราคาดไม่ถึง
ความน่ารักมันเริ่มจากการเดตในงานหนังสือมือสองนี่แหละค่ะ มาซามิได้พาอากิระไปทำความรู้จักกับเจ้าของร้านที่เข้ารู้จักมานาน และได้เจอกับจดหมายเก่าๆ ที่วางขาย ด้วยความสนใจ อากิระจึงได้หยิบขึ้นมาดูทีละฉบับซึ่งระหว่างนั้นคุณผู้จัดการก็ได้ถามว่า
“ทาจิบานะซังรู้จักคนที่เขียนจดหมายได้สั้นที่สุดในโลกหรือเปล่า”
แล้วก็เล่าต่อว่า เขาเป็นนักเขียนชาวฝรั่งเศส ชื่อวิกเตอร์ ฮิวโก้ เขากังวลเรื่องยอดขายหนังสือก็เลยส่งจดหมายไปถามสำนักพิมพ์ แต่เนื้อหาในจดหมายมีแค่เครื่องหมาย ? เพียงตัวเดียว
แล้วสำนักพิมพ์ก็ตอบกลับว่าขายดีด้วยเครื่องหมาย ! เพียงตัวเดียวเช่นกัน
มันหมายความว่าฮิวโก้กับสำนักพิมพ์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ถึงจะใช้แค่เครื่องหมายก็เข้าใจกันได้ เพราะประโยคที่แสนสั้นแบบนั้นการที่เขาเข้าใจกันได้ก็หมายความว่าเป็นความสัมพันธ์ที่มองตาก็รู้ใจ
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องนี้ อากิระก็ได้ลองส่งข้อความตามเรื่องเล่าที่ได้ยินไปหามาซามิบ้าง ไม่นานนักอากิระก็ได้ข้อความตอบกลับมาที่ทำให้เธอยิ้มเล็กยิ้มน้อยทั้งวัน
เป็นกำลังใจให้กันและกัน
“การที่ได้อยู่กับทาจิบานะซัง มันทำให้ฉันกลับมาจำสิ่งที่แสนล้ำค่าที่เคยลืมไปได้อีกครั้ง ขอบคุณมากๆ”
สำหรับฝ่ายที่อายุน้อยกว่าหนึ่งในบทบาทสำคัญที่เราเป็นได้เสมอคือการเป็นกำลังใจคอยเชียร์ในทุกการตัดสินใจของเขาหรือเธอ แน่นอนว่ารุ่นใหญ่จะมีความสามารถและเป้าหมายในการตัดสินใจในเรื่องหนึ่งๆ อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เขาต้องการคือการได้รับเสียงสนับสนุน กำลังใจเล็กๆ ในแต่ละวัน รวมถึงแรงซัพพอร์ตในวันที่เขาต้องดีลกับเรื่องใหญ่ การหันมามองเห็นว่าอีกฝ่ายพร้อมสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยให้ชื่นใจและทำให้ความสัมพันธ์นั้นยืนยาว
ในขณะที่อากิระต้องการกำลังใจที่จะกลับไปวิ่งได้ดังเดิม มาซามิเองก็ต้องการแรงใจและไฟในการกลับไปเขียนนิยายได้เหมือนกับตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
เป็นที่ปรึกษาที่ดี
ผู้ชายอายุมากนั้นมีเสถียรภาพทางจิตใจมากกว่าเด็กวัยรุ่นอย่างเราอยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาเหล่านั้นถึงได้ดูสุขุม เข้าใจโลก มีความสามารถในการรับมือกับความไม่คาดฝันในเรื่องต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม บางเรื่องบางอย่างที่เราแทบจะเอาเท้าก่ายหน้าผาก คิดไม่ตกเป็นวันๆ แต่พอเอาเรื่องเหล่านี้มาขอคำปรึกษา
เท่านั้นแหละ!
พริบตาเดียวปัญหานั้นก็ได้รับการแก้ไข
ไม่ใช่กับเรื่องทั่วไปเท่านั้น แต่ยังไม่ขี้งอน ขี้หึง วีนเหวี่ยงให้ต้องง้อเช้าง้อเย็นแต่เป็นการพูดคุยกันอย่างเข้าใจด้วยความเป็นจริง แถมยังเป็นผู้ฟังที่ดีอีกด้วย
ตอนที่อากิระลำบากใจเรื่องการทำการบ้านซ่อมเสริมในวิชาวรรณกรรมที่เธอไม่ถนัด เมื่อได้มาพูดคุยกับมาซามิแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนจะผ่นไปได้ด้วยดี
หรือตอนที่เธอลังเลใจว่าจะกลับไปวิ่งเหมือนเดิมดีหรือไม่ ก็ได้คำพูดของเขาช่วยให้เธอฮึดสู้กลับไปทำตามความฝันได้อีกครั้ง
ความรัก…ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วัยใดก็เป็นสิ่งสวยงาม เป็นเรื่องที่ดีอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของคนเรา การชอบคนที่อายุมากกว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือน่าอาย เพราะมันเป็นแค่เราชอบที่เขาเป็นตัวของเขา สุดท้ายแล้วความรักของคนทั้งสองคนจะรอดหรือร่วงมันไม่ใช่ที่อายุจะห่างกันมากกี่ปี แต่มาจากเราแฮปปี้ที่จะใช้ที่ชีวิตอยู่กับคนๆ นั้นหรือเปล่า
ที่มา