มีคำกล่าวว่าดนตรีเป็นภาษาสากลที่สามารถเชื่อมผู้คนทุกชาติพันธุ์ แม้จะไม่เข้าใจภาษา แต่ก็สามารถเข้าใจจิตวิญญาณและความรู้สึกของท่วงทำนองได้ แม้แต่ในโลกของการ์ตูนเราก็พบว่าดนตรีมีบทบาทในเนื้อเรื่องอยู่ไม่น้อย ครั้งนี้อนิไทม์ก็ขอพาคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านไปรู้จักกับดนตรีประเภทหนึ่งที่มีเรื่องราวอยู่ในการ์ตูนมากมาย “ดนตรีร็อก” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ การรวมวง การฝึกซ้อม หยาดเหงื่อ และจิตวิญญาณที่มุ่งมั่นจะเป็นร็อกสตาร์ ในการ์ตูนมีวงไหนเด่นดังกันบ้างไปชมกันเลย
The Sketch Book (สเก็ต ดานซ์)
สมาชิก “บอสเซน” ฟูจิโยชิ ยูสึเกะ (ร้องนำ,เบส) / “ฮิเมโกะ” โอนิซึกะ ฮิเมะ (กีตาร์) / “สวิตช์” อุซุย คาซึโยชิ (กลอง)
สังกัด ชมรมสนับสนุนการใช้ชีวิตในโรงเรียน (สเก็ต ดัน) โรงเรียนมัธยมไคเมย์
ผลงาน Funny Bunny, Michi
เดอะ สเก็ตช์บุ๊ก เป็นวงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและขึ้นแสดงเพียงครั้งเดียวในกิจกรรมประจำปีของโรงเรียนไคเมย์ชื่อ “ไคเมย์ ร็อก เฟสติวัล” หรือ KRF งานประกวดวงดนตรีร็อกเพื่อชิงตำแหน่งร็อกสตาร์แห่งไคเมย์ ซึ่งเกิดจากรสนิยมส่วนตัวของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนท่านหนึ่ง และได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั้งจากเหล่าวงดนตรีที่ลงประกวดและผู้ชม
ในตอนนั้นสามวงที่ยังหาสมาชิกได้ไม่ครบ คือ สเก็ตช์บอมเบอร์, Ch-Ch และ ยาบาซาวะบุ๊ก มาขอความช่วยเหลือจาก “สเก็ตดัน” ชมรมสนับสนุนการใช้ชีวิตในโรงเรียน ซึ่งรับงานช่วยเหลือผู้คนสารพัดเรื่อง สมาชิกทั้งสามคือ บอสเซน ฮิเมโกะ และสวิตช์ จึงต้องไปแซมตำแหน่งว่างของแต่ละวงและเป็นคู่แข่งกันชั่วคราว แต่เมื่อใกล้วันงาน ทั้งสามกลับมีเหตุให้ต้องถอนตัวจากการประกวดไป ทิ้งให้เหล่าสเก็ตดันที่อุตส่าห์ฝึกซ้อมแล้วเคว้งคว้างอยู่อย่างนั้น ทั้งสามจึงจับมือกันสมัครเข้าประกวดในชื่อ “เดอะ สเก็ตช์บุ๊ก” ซึ่งได้มาจากการรวมชื่อวงทั้ง 3 เข้าด้วยกันนั่นเอง
ถึงจะเป็นวงที่ก่อตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ แต่ เดอะ สเก็ตช์บุ๊ก ก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากสเก็ตดันได้ช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนมามากมายจนเป็นที่รู้จัก ที่จริงในตอนแรกวงนี้ได้ลงทะเบียนไว้ว่าจะแสดงเพลงเดียวนั่นก็คือ Funny Bunny แต่ก็ได้เพิ่มอีกเพลงสดๆ คือ Michi หรือ เส้นทาง เพื่อเป็นกำลังใจให้ อายาโนะ สุกิยากิ เด็กสาวนักไวโอลินอัจฉริยะผู้กำลังขาดความมั่นใจขณะที่ได้รับโอกาสไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมัน และในการประกวดครั้งนั้นวงสเก็ตช์บุ๊กก็ได้รับรางวัลเพลงยอดเยี่ยม
เดอะ สเก็ตช์บุ๊ก ยังถูกก่อตั้งขึ้นเป็นวงจริงๆ ในปี 2011 สังกัด avex music โดยผลการออดิชั่นสมาชิก 3 คนซึ่งมีลักษณะตรงกับตัวละครต้นแบบได้แก่ ทาดะ ฮิโรชิ (ร้องนำ, เบส) โคฮาระ ริโกะ (กีตาร์) และวาตานาเบะ ยู (กลอง) มีผลงานออกมาทั้งสิ้น 3 อัลบั้มและอีกหลายซิงเกิ้ล รวมไปถึงเพลง Michi ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นเพลงเปิดอนิเมะสเก็ตดานซ์อีกด้วย
ENOZ (เรียกเธอว่าพระเจ้า สึซึมิยะ ฮารุฮิ)
สมาชิก เอโนโมโตะ มิยูกิ (ร้องนำ,กีตาร์) / นาคานิชิ ทาคาโกะ (กีตาร์) / โอคาจิม่า มิซึกิ (กลอง) / ไซเซน ไม (เบส) / สึซึมิยะ ฮารุฮิ (ร้องนำ,กีตาร์ ชั่วคราว) / นางาโตะ ยูกิ (กีตาร์ ชั่วคราว)
สังกัด โรงเรียนคิตะโคว
ผลงาน God Knows, Lost My Music
มองเผินๆ อีนอซอาจไม่ต่างจากวงดนตรีของนักเรียนหญิงที่เล่นดนตรีเป็นกิจกรรมทั่วๆ ไปในโรงเรียน แต่วงนี้แหละคือเจ้าของเพลงที่ดังก้องโลกอนิเมะอมตะนิรันดร์อย่าง God Knows โดยชื่อวงอีนอซมาจากชื่อตัวอักษรแรกของสมาชิกทั้งสี่คน คือเอโนโมโตะ มิยูกิ, นาคานิชิ ทาคาโกะ, โอคาจิม่า มิซึกิ และ ไซเซน ไม และยังเป็นการย้อนกลับคำว่า ZONE วงดนตรีหญิงชื่อดังของญี่ปุ่น เจ้าของเพลงฮิต Secret Base ~Kimi Ga Kureta Mono~ อีกด้วย
ที่จริงแล้ววงนี้นับเป็นวงตัวละครประกอบมากขนาดที่ไม่ได้เอ่ยถึงชื่อวงหรือชื่อสมาชิกในฉบับนิยายเสียด้วยซ้ำ แต่ได้มาบอกในภายหลังในเวอร์ชันอนิเมะ และพวกเราอาจไม่รู้ถึงการมีตัวตนของพวกเธอหากไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น เมื่อเอโนโมโตะ นักร้องนำของวงเกิดอาการทอนซิลอักเสบ ขณะเดียวกันมือกีตาร์ นาคานาชิ ก็เจ็บข้อมือ วงอีนอซจึงต้องมาขอให้สึซึมิยะ ฮารุฮิ และนางาโตะ ยูกิ แห่งกองกำลัง SOS มาช่วยขึ้นแสดงแทนในงานประจำปีของโรงเรียน
ฮารุฮิซึ่งมีความสามารถที่น่าทึ่งติดตัวระดับพระเจ้าอยู่แล้วก็ได้ทำให้ผู้คนได้ตกตะลึงกันไม่ว่าจะเป็นพลังเสียงอันทรงพลังกับฝีมือกีตาร์ที่ไม่น่าเชื่อว่าเธอไม่เคยจับกีตาร์มาก่อน กับนางาโตะผู้ลึกลับและมีความสามารถอันคาดไม่ถึงติดตัวอยู่แล้ว จึงได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากเหล่าผู้ชมอย่างมหาศาล
Detroit Metal City (ดีทรอยต์ เมทัล ซิตี้ ร็อกนรกโยกลืมติ๋ม)
สมาชิก “โยฮันเนส เคราเซอร์ที่สอง” เนกิชิ โซอิจิ (ร้องนำ,กีตาร์) / “อเล็กซานเดอร์ จากี้” วาดะ มาซายุกิ (เบส) / “คามิวส์” นิชิดะ เทรุมิจิ (กลอง) / “หมูระบบทุนนิยม” นาชิโมโตะ เคย์สุเกะ (โดนเฆี่ยนโชว์)
สังกัด Death Record
ผลงาน SATSUGAI/Amai Koibito, Fuckingham Palace
วงร็อกที่เถื่อนถ่อยที่สุดในทุกวงดนตรีที่ปรากฏในการ์ตูน พวกเขาเรียกตัวเองเป็นซาตานจากขุมนรก นักดนตรีพอกหน้าสีขาวและเพนต์สีจนน่าเกลียดน่ากลัวไม่แพ้เครื่องแต่งกาย ทุกการแสดงของวงนี้อุดมไปด้วยถ้อยคำที่ต่ำทรามและหยาบคาย ไม่มีครั้งไหนที่ไม่กล่าวถึงเรื่องชั่วช้าไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรม การฆ่าคน อวัยวะเพศ ไปจนถึงการข่มขืนบุพการี เคล้าไปกับเสียงดนตรีที่หนักหน่วงรุนแรง
หากคุณกำลังนึกภาพสมาชิกวงนี้ที่นิสัยบรรลัยโลกทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเวทีแล้วล่ะก็ คุณคิดผิดแล้ว เพราะตัวจริงของ โยฮันเนส เคราเซอร์ที่สอง นักร้องนำสุดโหด ปีศาจร้ายที่ (มีสตอรี่ว่า..) เคยฆ่าข่มขืนพ่อแม่ตัวเองมาก่อนนั้นที่จริงแล้วก็คือ เนกิชิ โซอิจิ นักศึกษาผู้เด๋อด๋าไม่มีพิษมีภัยที่หวังจะแจ้งเกิดเป็นศิลปินสวีดิชป็อปอินดี้ที่ร้องเพลงเพื่อสร้างสรรค์โลก ถึงจะมีพรสวรรค์ด้านกีตาร์ แต่เขาก็เล่นดนตรีเปิดหมวกไม่รุ่งเอาเสียเลย พอเห็นค่ายเพลงรับสมัครนักดนตรีแล้วไปสมัครเข้าก็ถูกจับแต่งหน้าแต่งตัวเป็นอสุรกายเข้าให้แล้ว ครั้นจะออกจากวง เจ๊ผู้จัดการก็น่ากลัวเหลือเกินจึงต้องทนอยู่ต่อไป
เมื่อผนวกเข้ากับมือเบสหน้าหล่อผู้อยากจะออกไปอยู่ในบอยแบนด์เต็มที มือกลองซึ่งเป็นเพียงโอตาคุที่ชอบอ่านการ์ตูนลามก และตัวประกอบฉากที่เป็นเพียงลุงหัวล้านที่ทำงานในร้านสะดวกซื้อเท่านั้น ดีทรยต์ เมทัล ซิตี้ วงเมทัลหลุดโลกเจ้าของบทเพลงที่มีท่อนฮิตอย่าง ขืนใจผู้หญิงทุกคน ทิ้งอีพวกหมูตัวเมียไป ข่มขืนให้หนำใจ ข้าคือซาตาน ผู้หญิงทุกคนเป็นทาสข้า อยากฆ่าก็ฆ่าข่มขืนตามใจ ข้าคือซาตาน ขออึ๊บทีดิ๊นังหมูตัวเมีย ก็กลายเป็นวงสุดฮิตของโลกมืด
ด้วยความเถื่อนถ่อยบวกกับพรสวรรค์ DMC จึงเป็นวงที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงอย่างมากภายในเรื่อง โดยชื่อวง DMC มาจากอัลบัมหนึ่งของวงดนตรีเมทัลสุดโหดที่มีตัวตนอยู่จริงๆ อย่าง KISS
Ho-Kago Tea Time (เค-อง! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว)
สมาชิก ฮิราซาวะ ยุย (ร้องนำ,กีตาร์) / อากิยามะ มิโอะ (ร้องนำ,เบส) / ไทนากะ ริทสึ (กลอง) / โคโตบุกิ สึมุกิ (คีย์บอร์ด) / นากาโนะ อาสึสะ (กีตาร์) / ยามานากะ ซาวาโกะ (กีตาร์ ชั่วคราว)
สังกัด ชมรมดนตรีเบา โรงเรียนสตรีซากุระกาโอกะ
ผลงาน Don’t Say “Lazy”, Fuwa Fuwa Time
ชมรมดนตรีเบาแห่งโรงเรียนซากุระกะโอกะกำลังจะปิดตัวลงเนื่องจากสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่เดิมได้สำเร็จการศึกษาไปแล้ว และไม่มีผู้สืบทอด ประจวบเหมาะกับที่ไทนากะ ริทสึ เด็กสาวชั้น ม.4 ใฝ่ฝันจะก่อตั้งวงดนตรีร็อกหลังได้รับแรงบันดาลใจจากการดูคอนเสิร์ตทีวี ก็ได้เข้าครอบครองชมรมนี้ต่อพอดี และฉีกใบสมัครเข้าชมรมวรรณกรรมของเพื่อนสาวคนสนิท อากิยามะ มิโอะ ลากเธอเข้ามาเป็นสมาชิกหมายเลขสองต่อจากริทสึซึ่งสถาปนาตัวเองเป็นประธานชมรมและหัวหน้าวง หลังจากนั้นก็ได้ชวนสมาชิกคนอื่นมาเข้าร่วม นั่นก็คือ ฮิราซาวะ ยุย, โคโตบุกิ สึมุกิ และนากาโนะ อาสึสะ น้องเล็กสุดที่เข้าวงมาในภายหลัง
Ho-Kago Tea Time ได้ประเดิมผลงานสู่สายตาผู้คนครั้งแรกในงานประจำปีของโรงเรียน จากนั้นก็ได้ขึ้นแสดงอยู่หลายครั้ง รวมถึงยังได้ขึ้นแสดงเคียงบ่าเคียงไหล่กับเดธอีวิล วงศิษย์พี่จากชมรมเค-อง และยังได้บินลัดฟ้าไปแสดงในงานมหกรรมวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ลอนดอน
ชื่อวงเวลาน้ำชาหลังเลิกเรียนนี้เป็นไอเดียของมานากะ ซาวาโกะ อาจารย์ที่ปรึกษาและอดีตสมาชิกของชมรม ซึ่งเธอตั้งชื่อนี้จากการที่ชมรมนี้มักจะมาจิบชากันที่ห้องชมรมทุกวันหลังเลิกเรียนแทนที่จะซ้อมดนตรีที่เป็นกิจกรรมหลักของชมรม
วงนี้ได้เฉิดฉายตลอด 3 ปีเต็มของการเป็นนักเรียนมัธยมปลาย ก่อนจะสิ้นสุดลงเมื่อสมาชิกส่วนใหญ่ได้สำเร็จการศึกษาและเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา แต่ชมรมก็ยังคงอยู่โดยมีอาสึสะ สมาชิกรุ่นน้องที่สานต่อในชื่อวง วาคาบะ เกิร์ล
Black Stones (NANA)
สมาชิก โอซากิ นานะ (ร้องนำ) / เทราชิมะ โนบุโอะ (กีตาร์) / โอคาซากิ ชินอิจิ (เบส) / ยาสุชิ ทาคากิ (กลอง)
สังกัด Gaia Records
ผลงาน Glamorous Sky, Endless Story
แบล็ค สโตนส์ หรือที่มักจะเรียกกันย่อๆ ว่า บลาสต์ (บุระสึโตะ) คือวงพังก์ร็อกที่กำเนิดขึ้นในเมืองเล็กๆ ริมชายฝั่งชื่อเมกุโระ ในปี 1997 และมีผลงานโดนใจวัยโจ๋ท้องถิ่นจนถึงขั้นมีคนรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มแฟนคลับ แต่เล่นอยู่ได้สองปี ฮอนโจ เรน มือเบสผู้มีพรสวรรค์ก็ออกจากวงไปเพราะถูกทาบทามให้เข้าวงแทรปเนสต์ วงชื่อดังติดลมบนระดับประเทศ แม้ว่า โอซากิ นานะ นักร้องนำและแฟนสาวของเรน จะอยากให้บลาสต์มีทางเดินต่อไป แต่ก็ไม่สามารถหักห้ามใจไม่ให้ห่างจากเรนได้ เธอจึงย้ายไปอยู่โตเกียวเพื่อเข้าสู่สายงานด้านดนตรีและไล่ตามเรนให้ทัน บลาสต์จึงต้องยุติบทบาทไป
ทว่าไม่นานหลังจากนั้น บลาสต์ก็คืนชีพขึ้นมาอีกครั้งด้วยปณิธานของนานะ ที่อยากทำให้วงของเธอยิ่งใหญ่ไม่แพ้แทรปเนสต์ การกลับมาครั้งนี้ได้สมาชิกใหม่คือ โอคาซากิ ชินอิจิ เด็กหนุ่มสุดเปรี้ยวที่เข้ามาเป็นมือเบสแทนเรน และเปิดตัวในวงการเพลงด้วยอัลบัม Blast! ในปี 2001 ด้วยความสามารถของพวกเขาจึงไม่แปลกใจที่บลาสต์จะกลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว
กระนั้นเส้นทางของบลาสต์ก็ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะสมาชิกแต่ละคนต่างก็มีปัญหาที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นความระแวงในความสัมพันธ์ระหว่างนานะและเรน การถูกสื่อจุดประเด็นปัญหาความสัมพันธ์ภายใน และความสัมพันธ์ระหว่างบลาสต์กับแทรปเนสต์ การเสียชีวิตของเรนที่สะเทือนใจทุกคน และการติดยาเสพติดขั้นหนักของชินอิจิ ซึ่งทำให้การทัวร์คอนเสิร์ตของวงต้องชะงัก บันไดสู่การขึ้นเป็นหนึ่งในวงการเพลงร็อกของบลาสต์จึงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการเพิ่มพูนทักษะฝีมือ แต่ยังต้องฝ่าดงหนามชีวิตอื่นๆ ให้ได้อีกด้วย
2B Pencil (เซียนเกมรักขอเป็นเทพนักจีบ)
สมาชิก โคซากะ จิฮิโระ (ร้องนำ,กีตาร์) / เอลูเซีย เอด ลูท อีม่า (เบส) / ทาคาฮาระ อายุมิ (กีตาร์) / เทราดะ มิยาโกะ (คีย์บอร์ด) / โกอิโด ยุย (กลอง)
สังกัด ชมรมดนตรีเบา โรงเรียนไมจิมะ
ผลงาน ความทรงจำรักแรกของฉัน
คัตสึรางิ เคย์มะ เด็กหนุ่มโอตาคุผู้ไม่สนใจโลกแห่งความเป็นจริง หรือแม้กระทั่งสาวสามมิติ แต่กลับมีความเชี่ยวชาญในการเล่นเกมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมจีบสาว จนได้รับฉายาเทพตกสาว ทำให้เป็นที่ต้องการของหน่วยไล่ล่าวิญญาณหลบหนีของนรก เพราะวิญญาณที่หลบหนีจากนรกนั้นมักจะมาหลบซ่อนอยู่ในจิตใจของสาวๆ และการใช้ความรักก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการไล่วิญญาณหลบหนีออกมา หรือว่าง่ายๆ ก็คือต้องการให้เคย์มะนั้นไปจีบสาวๆ ที่มีวิญญาณหลบหนีอยู่ในตัวนั่นเอง
หลังจากที่เคย์มะจบภารกิจของ โคซากะ จิฮิโระ และจับวิญญาณหลบหนีได้สำเร็จ จิฮิโระก็เกิดความรู้สึกอยากจะเริ่มทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมา จึงได้ชวนเอลซี่ก่อตั้งวงดนตรีด้วยกัน และได้อายุมิและมิโยโกะ สองสาวเพื่อนสนิทมาร่วมด้วย และภายหลังก็ได้โกอิโด ยูอิ เด็กสาวทอมบอยผู้มีความสามารถในการตีกลองมาเป็นมือกลองของวง โดยชื่อวงนั้นมาจากที่สมาชิกทุกคน (ยกเว้นยูอิ) อยู่ห้อง 2-B และยังมีความหมายถึงดินสอ 2B อีกด้วย
2B Pencil ได้ขึ้นแสดงครั้งแรกในงานเทศกาลไม งานเทศกาลของโรงเรียนไมจิม่า ซึ่งในครั้งนั้นยังได้นาคากาวะ คาน่อน ไอดอลสาวผู้กำลังโด่งดังและเพื่อนร่วมชั้นมาร่วมร้องเพลงด้วย จากเดิมที่คาน่อนจะได้แสดงต่อหลังจากการแสดงของ 2B Pencil สิ้นสุดลง โดยเพลงที่ใช้แสดงในครั้งนั้นคือ ความทรงจำรักแรกของฉัน
ความจริงแล้ววงนี้เกือบจะไม่ได้ก่อตั้ง เพราะอาจารย์โคดามะ อาจารย์ภาษาอังกฤษผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเคย์มะยื่นเงื่อนไขว่าสมาชิกทุกคนจะต้องทำคะแนนสอบภาษาอังกฤษได้เต็ม 100 ทุกคนจึงไปขอให้เคย์มะผู้ที่ทำคะแนนได้เต็มมาตลอดมาช่วยติวให้ จนทุกคนสามารถทำคะแนนเต็มได้ ยกเว้นเพียงเอลซี่ แต่อาจารย์โคดามะก็อนุญาตให้ก่อตั้งวงได้เพราะสะใจที่เคย์มะพลาดทำข้อสอบไม่ได้คะแนนเต็ม 100 เหลือเพียง 99 คะแนนเป็นครั้งแรก
Beck (ปุปะจังหวะฮา)
สมาชิก “โคยูกิ” ทานากะ ยูกิโอะ (ร้องนำ,กีตาร์) / “เรย์” มินามิ ริวสึเกะ (กีตาร์) / โยชิยุกิ ไทระ (เบส) / ซากุราอิ ยูจิ (กลอง) / สึเนมิ จิบะ (แร็ปเปอร์)
สังกัด NAFF Records
ผลงาน Out of the hole, Baby Star
เบ็ค เป็นวงดนตรีร็อกที่ตั้งชื่อตามสุนัขซึ่งมีรอยแผลเย็บปุปะเต็มตัวของมินามิ ริวสึเกะ มือกีตาร์ลูกครึ่งฝันไกลที่ปัจจุบันตกอับอยู่กับร้านตกปลา มันชักนำให้เขาได้มาพบกับ ทานากะ ยูกิโอะ หรือ โคยูกิ เด็กมัธยมผู้ไม่มีความสามารถอะไรแถมยังถูกรังแกอยู่บ่อยๆ ริวสึเกะแนะนำให้โคยูกิรู้จักไดอิ้ง บรีด วงดนตรีเพื่อนเก่าของริวสึเกะ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นวงร็อกระดับโลก พลังของมันฉุดให้โคยูกิหลงใหลในโลกของร็อกทันที
ความหลงใหลในดนตรีร็อกที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ฟังวงไดอิ้งบรีด และความพยายามจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กแหยไม่เอาถ่านให้กลายเป็นหนุ่มนักดนตรีที่สาวๆ กรี๊ด โคยูกิจึงฝึกซ้อมกีตาร์ซึ่งได้มาจากริวสึเกะอย่างเอาเป็นเอาตายจนชำนาญ ทว่าสิ่งที่ริวสึเกะและใครๆ ก็ยังไม่รู้แม้แต่เจ้าตัวเองก็คือเสียงร้องเพลงของโคยูกินั้น “อยู่ในระดับเทพเจ้า”
การพบกับโคยูกิทำให้ริวสึเกะเห็นความเป็นไปได้ที่จะก่อตั้งวงที่สุดยอดขึ้นจึงรวบรวมสมาชิกอันประกอบด้วย โยชิยูกิ ไทระ มือเบสสไตล์ฟังกี้ที่เคยมีผลงานร่วมกับวงอื่นๆ มาแล้วมากมาย, สึเนมิ จิบะ แร็ปเปอร์ดีกรีแชมเปี้ยน เอ็นเตอร์เทนเนอร์ผู้สร้างความสนุกสนานให้ผู้ชมได้ทุกครั้ง และซากุราอิ ยูจิ มือกลองเพื่อนซี้ของโคยูกิ เด็กหนุ่มอนาคตไกลที่แม้แต่โปรดิวเซอร์ระดับโลกยังต้องเอ่ยปากชม มาก่อตั้งขึ้นเป็นวงเบ็ค
เบ็คไม่ใช่วงดนตรีที่สุดยอด แต่ก็มีเสน่ห์จนหากใครได้ชมการแสดงก็จะต้องหลงใหลกลายเป็นแฟนคลับ ไม่ใช่แค่เฉพาะคนดู แต่ยังมีทั้งโปรดิวเซอร์ที่ตัดสินใจเดิมพันด้วยการลาออกมาทำเพลงให้พวกเขา ผู้กำกับระดับโลกที่ยินดีทำมิวสิควิดีโอให้ฟรี และแม้แต่วงดนตรีร็อกชื่อดังจากอเมริกาก็ยังให้การยอมรับ เรียกได้ว่าเป็นวงดนตรีที่เกิดจากการปุปะส่วนขาดๆ เกินๆ ไม่ต่างอะไรกับร่างกายของเจ้าหมาตัวนั้น
The Fallen Moon (สายลมรักฤดูร้อน)
สมาชิก อาคิทสึกิ ฟูกะ (ร้องนำ) / ฮารุนะ ยู (เบส) / อิวามิ ซาระ (กีตาร์) / มิคาสะ มาโคโตะ (คีย์บอร์ด) / นาชิ คาซึยะ (กลอง)
สังกัด Twinkling Star LTD
ผลงาน Fair Wind, Selfish
อาคิทสึกิ ฟูกะ ลูกสาวอดีตนักกรีฑาระดับประเทศ ขว้างโทรศัพท์ของ ฮารุนะ ยู เด็กหนุ่มที่พึ่งย้ายมาจากต่างเมืองลงพื้นตั้งแต่แรกเจอ เพราะเข้าใจผิดว่าเขากำลังแอบถ่ายใต้กระโปรง ทั้งๆ ที่ยูนั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มจืดจางที่เสพติดทวิตเตอร์เท่านั้น
เมื่อแก้ไขความเข้าใจผิดกันได้ ยูที่เริ่มรู้สึกดีๆ กับฟูกะจึงได้รู้ว่าเธอชื่นชอบบทเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นจากการฟังหรือร้อง และเพราะอยากจะเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของเธอ เขาจึงเสนอให้เธอลองเล่นดนตรี ฟูกะตอบตกลงและกระชากเขามาเป็นมือเบสของวงทันที
ด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าอดีตสมาชิก เดอะ เฮ็ดจ์ฮ็อก วงดนตรีดังในอดีตที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเริ่มสนใจดนตรีแต่มีเหตุให้ต้องแยกวงกันไป ฟูกะ ยู และ มิคาสะ มาโคโตะ อดีตนักเปียโนมือรางวัลรุ่นเยาว์ซึ่งเปิดเผยว่าตนไม่ชอบผู้หญิง จึงได้มาทำงานพิเศษในหน้าร้อนด้วยกันเพื่อหาเงินมาซื้อเครื่องดนตรีและจัดตั้งวง งานนี้แม้แต่นาชิ คาซึยะ รุ่นพี่จากชมรมกรีฑาที่มาตามตื๊อฟูกะไปสร้างตำนานต่อจากพ่อและแม่ก็ถูกดึงเข้ามาร่วมวงในฐานะมือกลองไปด้วย ก่อนจะได้อิวามิ ซาระ สาวซึนเดเระพูดน้อยผู้เล่นดนตรีกับวงไหนก็ไม่เคยเข้ากับใครได้ซึ่งตอบตกลงเข้าร่วมวงในฐานะมือกีตาร์ทันที วงดนตรีสุดกระท่อนกระแท่นจึงเริ่มขึ้น
ชื่ออาคิทสึกิเกิดจากนักร้องดังจากต่างประเทศถามชื่อวงเข้า ฟูกะซึ่งเข้าใจภาษาอังกฤษแค่คำว่าชื่อจึงบอกชื่อของเธอไป แต่เมื่อพิจารณาความหมายของชื่อซึ่งแปลว่าพระจันทร์ร่วงหล่นแล้ว สมาชิกทุกคนก็เห็นตรงกันว่าใช้เป็นชื่อวงเลยก็น่าสนใจดี แต่ภายหลังเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นจึงต้องเปลี่ยนนักร้องนำเป็นอาโออิ ฟูกะ และเปลี่ยนชื่อวงเป็น Blue Well
อุลตราโซล (Bakumatsu Rock ปฏิวัติชาวร็อก)
สมาชิก ซาคาโมโตะ เรียวมะ (ร้องนำ,กีตาร์) / “ชินดี้” ทาคาสุกิ ชินซากุ (เบส) / “อาจารย์” คัตสึระ โคโกโระ (กลอง) / ฮิจิคาตะ โทชิโซ (กีตาร์) / โซจิ โอคิตะ (กีตาร์, คีย์บอร์ด)
สังกัด อิสระ
ผลงาน Rolling Thunder, Zetcho DAYBREAK
ในช่วงปลายยุคบาคุมัตสึของโชกุนโตกุกาวะ ดนตรีเป็นสิ่งที่ถูกจำกัด มีเพียงวงดนตรีที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอย่างท็อปไอดอล “ชินเซ็นกุมิ” เท่านั้นจึงจะสามารถขับร้อง “บทเพลงสวรรค์” แนวเพลงที่รัฐบาลสร้างขึ้นมาเพื่อใช้กล่อมเกลาล้างสมองประชาชนได้อย่างถูกกฎหมาย ดนตรีที่นอกเหนือจากนี้จะถือว่าเป็นกบฎ ต้องถูกกวาดล้าง
ทาคาสุกิ ชินซากุ และคัตสึระ โคโกโระ ออกเดินทางมาจากโจชูเพื่อตามหา โชอิน โยชิดะ อาจารย์ของพวกเขาซึ่งหายตัวไป แต่กลับพบว่ากีตาร์ประจำตัวของอาจารย์โชอินสะพายอยู่บนบ่าของ ซาคาโมโตะ เรียวมะ ลูกจ้างร้านอาหารธรรมดาๆ ที่มีงานอดิเรกเป็นการออกมาร้องเพลงข้างถนนยามค่ำคืน เมื่อได้ทราบว่าอาจารย์ของพวกเขาเป็นผู้มอบกีตาร์นี้ให้เรียวมะเพราะเล็งเห็นจิตวิญญาณในตัวเขา ทั้งสามจึงตัดสินใจตั้งวงร็อกขึ้นมาเพื่อปฏิวัติยุคสมัยนี้ให้สำเร็จ
ภายหลังได้รับรู้แผนการชั่วร้ายของรัฐบาล และจิตวิญญาณของเพลงร็อก ฮิจิคาตะ โทชิโซ และโซจิ โอคิตะ สองนักร้องนำของชินเซ็นกุมิ ก็มาเข้าร่วมวงร็อกกับพวกเขาด้วย โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาถูกลิขิตอนาคตให้มารวมกันโดยพีสโซล พลังจิตวิญญาณที่จะตื่นขึ้นเมื่อพลังใจของมนุษย์ผู้ครองครองมันขึ้นไปจนถึงจุดที่สูงที่สุดและระเบิดเสื้อผ้าออกจนเหลือเพียงซิกแพ็คล่ำๆ เมื่อพีสโซลในตัวพวกเขามารวมกันครบทั้ง 5 แล้ว ก็จะเกิดเป็นจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ทรงพลังที่เปลี่ยนแปลงได้แม้แต่กระแสของยุคสมัยเลยทีเดียว
วงดนตรีพันธุ์ร็อกโลกการ์ตูนนั้นไม่ได้หมดลงเพียงเท่านี้แน่ๆ เพราะไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ ดนตรีร็อกก็ไม่ใช่แค่เพลงที่มีจังหวะหนักแน่น สนุกสนาน น่าโยกหัวกระทืบเท้าตาม แต่ยังมีจิตวิญญาณแห่งความอิสระเสรี และพลังที่พร้อมจะทลายกำแพงที่ปิดกั้นเราจากสิ่งใดๆ ออกไปสู่โลกอีกใบได้เสมอ จำเอาไว้ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกเบื่อหน่ายโลกที่มีแต่เรื่องเซ็งๆ นี้ล่ะก็ ก็ปล่อยตัวปล่อยใจออกไปโยกกันให้เต็มที่กันได้เลย.. แต่ระวังอย่าโยกจนหัวหลุดล่ะ!