สเปลบี สควอโล่ นักดาบฝีมือฉกาจสามารถเอาชนะเทพกระบี่ทูลได้ จนได้รับสมยานามว่าเทพกระบี่รุ่นที่ 2 เป็นว่าที่หัวหน้าแก๊งวาเรียที่นอกจากจะขี้โวยวายแล้วยังหยิ่งทะนงที่สุดในรีบอร์น แต่ชายที่ไม่เคยก้มหัวให้ใครอย่างสควอโล่กลับยอมซันซัสหรือแซนซัสแทบทุกอย่าง ยอมตั้งแต่แรกเห็น จนเกิดเป็นคู่ชิป XS ขึ้นมา
ยอมสยบ
สควอโล่ก็เหมือนฉลามหิวโซแสนหยิ่งทะนง เจอใครก็จ้องจะสับเป็นชิ้นๆ ลูกเดียว แต่พอเห็นซันซัสในงานเลี้ยงแวบแรก เขาก็รู้สึกได้ถึงความเกรี้ยวโกรธที่แฝงอยู่ในแววตาคู่นั้น และออร่าความน่าเกรงขามของผู้ชายที่ชื่อซันซัส เพียงแค่แวบเดียวนั้นชายที่หยิ่งทะนงในความเก่งกาจของตัวเองอย่างสควอโล่ก็ยอมสยบให้ซันซัส และตัดสินใจว่าจะติดตามชายคนนี้
“ตอนนั้นเองที่ฉันพบแกครั้งแรก…เห็นแค่แวบเดียวก็รู้ว่าฝีมือเทียบกันไม่ติด…ก็เลยตัดสินใจที่จะร่วมเดินไปทางเดียวกัน”
ยอมให้คำสัตย์สาบาน
เพื่อแสดงให้ซันซัสเห็นความตั้งใจแน่วแน่ว่าเขาพร้อมจะติดตามซันซัสไป สควอโล่ถึงกับลั่นวาจาสาบานว่าจะไม่ตัดผมจนกว่าแผนการที่ทำให้ซันซัสได้ขึ้นเป็นบอสของวองโกเล่จะสำเร็จ มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ว่า ฉันมั่นใจว่าจะทำประโยชน์ให้นายได้แน่ ขอให้ฉันได้อยู่ข้างนายเถอะนะ
“เฮ้ย! ซันซัสฉันสาบานเลย จนกว่าฉันจะทำแผนการนั้นสำเร็จฉันจะไม่ตัดผม
…ฉันแค่อยากเรียนเพลงดาบของเทพกระบี่ที่ไม่มีมือซ้ายเหมือนกันก็เลยทิ้งมือไปเท่านั้นเอง
เป็นการเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับนายยังไงเล่า
คอยดูก็แล้วกันคุณชายจากนี้ต่อไปวันหนึ่งนายจะรู้สึกว่าโชคดีที่ได้ฉันคนนี้เป็นพวกเดียวกัน”
ยอมให้ประทุษร้าย
ก่อนที่จะเกิดศึกชิงแหวน สควอโล่สามารถชิงฮาฟวองโกเล่ริงจากบาจิลกลับมาให้ซันซัสได้สำเร็จ แต่เขากลับไม่เอะใจเลยว่าแหวนที่ชิงมาได้นั้นเป็นของปลอม พอซันซัสรู้ว่าแหวนเป็นของปลอมก็จับหัวสควอโล่โขกโต๊ะด้วยความโมโหแบบไม่ทันตั้งตัว สควอโล่ที่ยังไม่รู้เรื่องก็โวยลั่น แต่เจอซันซัสตอกกลับมาประโยคเดียวสั้นๆ ว่า มีปัญหารึไง? เขาก็ไม่กล้าหือ ทั้งที่ปกติไม่เคยยอมใครมาทำอะไรตัวเองฟรีๆ โดยไม่สวนกลับแท้ๆ
“เฮ้ย!! ทำอะไรของแก!!”
“มีปัญหารึไง?”
“….”
ยอมรับและหลงใหล
สควอโล่ยอมรับและเชื่อมั่นในตัวซันซัสยิ่งกว่าใคร ความคิดว่าซันซัสจะพ่ายแพ้ใครไม่เคยมีอยู่ในหัวเขา ตอนที่ซันซัสโดนเดือดทะลุจุดศูนย์ของ ซาวาดะ สึนะโยชิ สควอโล่ยังเชื่อจนนาทีสุดท้ายว่าคนที่ยืนอยู่ได้ก็คือซันซัส เพราะเขาเข้าใจความโกรธของซันซัสและหลงใหลในพลังนั้น…พลังที่ทำให้เขาตัดสินใจติดตามซันซัส
แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วซันซัสจะแพ้แต่สควอโล่ก็ยังเชื่อและศรัทธาในตัวซันซัสไม่เปลี่ยน จนคนดูอย่างเราอดคิดไม่ได้ว่านี่มันหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว
“ดีมาก…ความโกรธแบบนั้นแหละที่แสดงความทะเยอทะยานของแก ความโกรธนั่นแหละที่ฉันหลงใหล ถึงได้ติดตามแกมาตลอด”
ยอมรับอดีต
สควอโล่เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าซันซัสไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดกับวองโกเล่รุ่นที่ 9 แต่ก็ไม่เคยเหยียดหยามหรือเอาความลับที่ได้ยินมานี้ไปแพร่งพรายให้ใครได้รู้ เพราะไม่อยากให้ซันซัสจ็บปวดและยังคงติดตามเขาต่อไปด้วยความเต็มใจเหมือนที่ผ่านมา
“บอกว่าเข้าใจงั้นเรอะ อย่างแกจะมาเข้าใจอะไรฉัน อย่ามาพูดเหมือนรู้ดีหน่อยเลยว่ะ”
“ไม่หรอก ฉันเข้าใจเฟ้ย!! ฉันรู้เรื่องทั้งหมด”
ยอมตามใจ
ในศึกกวาดล้างมิลฟิโอเล่แฟมิลี่ ซันซัสเอาแต่นอนเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ที่ปราสาท ปล่อยให้สควอโล่เป็นคนสั่งการและวิ่งวุ่นกำจัดศัตรู
แม้มีศัตรูมารอเชือดถึงถิ่นแต่ซันซัสก็หาได้สนปี่สนขลุ่ยไม่ ยังคงโมโหเอาแต่ใจจะกินโน่นกินนี่แบบไม่ดูสถานการณ์ใดใด จนลูกน้องเอาใจไม่ถูกต้องรีบวิ่งไปรายงานสควอโล่เพราะรับมือไม่ไหวแล้ว
พอสควอโล่ได้รับรายงานความมากเรื่องของบอสก็หัวร้อนทันที แต่ปากก็โหวกเหวกโวยวายไปอย่างนั้นแหละ เพราะสุดท้ายไม่ว่าซันซัสจะเรื่องมากเอาแต่ใจแค่ไหนสควอโล่ก็ยอมตามใจอยู่ดี ช่างไม่ห่วงลูกน้องที่ต้องกลับไปรายงานเอาซะเลย
“บอสตะไลอะไรเนี่ย!! ชาวบ้านเขากำลังยุ่งกันอยู่นะเฟ้ย!!
…พวกแกไปบอกบอสให้ใส่หูฟังสื่อสารได้เลย ไม่ชอบก็ต้องใส่!!
บอกด้วยว่าเดี๋ยวจะหาไอ้เนื้อที่อยากกินให้ ไอ้บอสตะไล!!”
นี่แหละน้าาา ถ้าเป็นคนที่ใช่ เห็นแวบแรกมันก็คือใช่ ไอ้ฉลามสวะอย่างสควอโล่ที่ไม่เคยยอมใครเอะอะก็สับแหลก กลับยอมลงให้ไอ้บอสตะไลอย่างซันซัส แถมยังยอมติดตามเคียงข้างเป็นมือขวาไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย…ไม่แน่ว่าอาจจะติดตามไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ 🙂